22 สิงหาคม 2567 ที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี นายชัยวัฒน์ ยิ่งยวด สมาชิกสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง พร้อม นายประเทือง ลิ้มรสสุคนธ์ และประชาชนชาวคลองหลวง จำนวน 120 คน ได้ยื่นหนังสือทติดตามสอบถามกับผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กรณี ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดของ นายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองคลองหลวง และพวกทุจริตถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโรคระบาดโควิด-19 โดยมีมติให้พ้นจากตำแหน่ง
บรรยากาศมีชาวบ้านจำนวน 120 คน ได้ถือป้ายบริเวณลานจอดรถหน้าศาลากลางจังหวัดปทุมธานี ระบุข้อความบนแผ่นป้ายว่า โกงชัดๆ ซ้ำๆ แบบนี้ ปลดได้หรือยังครับ ผู้ว่าฯ และมท. , ปปช.สั่งปลดนายเอกพจน์นานแล้ว ทำไม ผู้ว่าปทุมฯและมหาดไทย ยังไม่ปลดสักที โดยมีเจ้าหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปทุมธานีเป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีรับหนังสือ กรณีขอให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติเทศบาลและตามมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ได้ไต่สวนและวินิจฉัยชี้มูลความผิด ของนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง เจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้เกี่ยวข้องในการทุจริตจจัดซื้อถุงยังชีพ และรายงานและสำนวนการไต่สวน ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. คดีหมายเลขดำที่ 91-100042/2565 คดีหมายเลขแดงที่ 01666-1-50/2567 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ในฐานะเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองคลองหลวง ผู้ติดตามเรื่องร้องเรียนนี้มาโดยตลอด ตามที่ข้าพเจ้าได้ร้องเรียนผู้ถูกกล่าวหากรณี ทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อมาทราบว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวนและวินิจฉัยชี้มูลความผิดเป็นจนเสร็จสิ้นกระบวนความแล้ว โดยได้มีมติให้ นายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองคลองหลวงพ้นจากตำแหน่ง นอกจากนี้ยังมีการจัดดำเนินโครงการสร้างถนนเลียบคลองและเขื่อนที่คลองสอง , โครงการปรับปรุงอาคารเทศบาลเมืองคลองหลวง , โครงการขุดลอกคลอง กำจัดผักตบชวา หลังจากได้ยื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานีแล้วยังได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่ศูนย์ดํารงธรรมกระทรวงมหาดไทย
นายประเทือง ลิ้มรสสุคนธ์ กล่าวว่า เนื่องจาก ป.ป.ช.ได้ชี้มูลบความผิด นายกเอกพจน์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 กรณีที่จัดซื้อถุงยังชีพ และได้มีการกระทำความผิดต่อเนื่อง ที่พวกเราเห็นว่าเข้าข่ายผิดระเบียบของการจัดซื้อจัดจ้าง กรณีการขุดลอกคลอง ได้นำรถหลวง เรือหลวง น้ำมันหลวง มาใช้ขุดลอกคลองที่หมู่ 5 และหมู่ 1-3 โดยมีรถ อบจ.และรถของเทศบาล และนายเอกพจน์ ได้ตั้งโครงการจัดทำพร้อมที่จะเบิกงบประมาณ พวกเราเห็นแล้วมันไม่ชอบ ที่สำคัญทั้งๆ ที่ตัวเองมีความผิดก็ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายยังไม่กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง หลายกรรมหลายวาระ และก็ทำความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการสร้างเขื่อนที่คาราคาซังงบประมาณหลายร้อยล้านยังไม่สามารถดำเนินการต่อได้ เนื่องจากทำผิดระบบ ผิดระเบียบ หรืออาจจะเกิดจากการฉ้อฉลของการบริหารภายในหรือเปล่า และที่สำคัญการปรับปรุงอาคารสำนักงานใช้งบประมาณ 49 ล้าน เมื่อเทียบกับที่อื่นถือว่าสูงมโหฬาร และยังทำไม่แล้วเสร็จไม่เกิดอะไรขึ้น พวกเราชาวบ้านจำนวน 120 คน จึงได้ชวนเชิญกันมาเรียกร้องให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยช่วยเร่งดำเนินการปลดเอกพจน์ ปานแย้ม ตามคำสั่งของ ป.ป.ช. ซึ่งหลังจากยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีแล้วทางกลุ่มชาวบ้านได้รวมตัวเดินทางไปที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อสอบถามความคืบหน้าในวันนี้ด้วย.
สญชัย คล้ายแก้ว รายงาน