22 มกราคม 2568 นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายบำรุง สังข์ขาว รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดน่าน ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ณ อุโมงค์แม่กา ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา
โดยข้อมูล ณ เดือน ธันวาคม 2567 ความก้าวหน้ารวมทั้งโครงการทั้ง 3 สัญญา ความก้าวหน้างานก่อสร้างสะสม ร้อยละ 23.99 แผนงานสะสมร้อยละ 29.838 ผลงานสะสมช้ากว่าแผน -5.848 สำหรับการดำเนินการก่อสร้างในส่วนที่เป็นอุโมงค์มีทั้งสิ้น 4 อุโมงค์อุโมงค์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ อุโมงค์ดอยหลวง จ.เชียงราย 3.4 กม. อุโมงค์แม่กา จ.พะเยา 2.7 กม. อุโมงค์งาว จ.ลำปาง 6.2 ก.ม. อุโมงค์สอง จ.แพร่ ยาว 1.2 กม. โดยที่อุโมงค์แม่กา มีความก้าวหน้าแผนงานสะสมร้อยละ 27.780 ผลงานสะสมร้อยละ 38.7 เร็วกว่าแผนร้อยละ 10.92 ส่วนอุโมงค์ที่เหลือมีความคืบหน้าตามลำดับ โดยทางรถไฟสายนี้ มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2571 ที่จะถึงนี้
จากนั้น คณะฯได้ร่วมประชุม คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.)กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เชียงรายพะเยา แพร่ น่าน ที่ ห้องประชุม ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี ชั้น 2 โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยพะเยา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา โดยในที่ประชุมได้มีการ แนะนำผู้บริหารที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่จังหวัดภายในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 รวมถึงประธานสมาคมธนาคารไทยกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เป็นรองประธานกรรมการคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ แนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไข ปัญหาเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัด (กรอ.)กลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ 2568 การรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้าง รถไฟทางคู่สาย เด่นชัย เชียงราย เชียงของ โดยผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย การรายงานผลการวิจัยเรื่องแนวทางการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวมูลค่าสูงในพื้นที่ล้านนาตะวันออกสู่การเป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ และติดตามการดำเนินงานตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 2/2567 ณ จังหวัดพะเยาในประเด็นการผลักดันการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern economics corridor : NEC ) ให้ครอบคลุมจังหวัดภายในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2
