Uncategorized

หญิงตาบอดยอดนักสู้เหลือเชื่อยึดปักผ้าคลุมศรีษะเลี้ยงชีพ

นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

หญิงตาบอดยอดนักสู้เหลือเชื่อยึดปักผ้าคลุมศรีษะเลี้ยงชีพ

สำหรับความเหลือเชื่อและผิดธรรมชาติของคนตาบอดเรื่องนี้

เกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 550 บ้านตันหยง ม.10 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่เราได้พบเห็น น.ส.รอยะห์ เจ๊ะแม อายุ 44 ปี ซึ่งมีดวงตาบอดทั้ง 2 ข้าง กำลังนั่งปักผ้าคลุมศรีษะ หรือ ฮิญาบ ที่สุภาพสตรีชาวมุสลิมใช้สำหรับคลุมผม หากดูผิวเผินก็เหมือนคนปกติทั่วไปกำลังนั่งปักผ้าคลุม และเป็นที่ชินตาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง
ด้วยความสงสัยผิดธรรมชาติที่คนตาบอด ได้ยึดอาชีพปักผ้าคลุมศรีษะ จึงได้เดินเข้าไปพูดคุยและได้ทดลองให้ น.ส.รอยะห์ ร้อยเส้นด้ายเข้าไปในรูเข็มให้เห็นกับตา ถึงกับตะลึงเมื่อพบว่าเป็นจริงตามที่ชาวบ้านบอก และได้พูดคุยกับ น.ส.รอยะห์ ในขณะที่กำลังปักผ้าคลุมศรีษะ จนทราบว่า เดิมทีก็มีดวงตาปกติเหมือนกับคนธรรมทั่วไป แต่ในช่วงอายุ 8 ขวบ ได้เล่นซุกซนกับเพื่อนๆแถวบ้าน ได้มีสิ่งผิดปกติเข้าไปในดวงตา จึงได้บอกกับนายเจ๊ะปอ เจ๊ะแม และนางกือซง ซือแม ซึ่งเป็นบิดากับมารดา โดยทั้ง 2 ได้ใช้น้ำสะอาดล้างดวงตา ทำให้ดวงตามีความระคายเคืองดีขึ้นแต่ยังไม่หายสนิท จนผ่านไปประมาณ 3 วัน อาการที่ดวงตาเริ่มปวดแสบปวดร้อน บิดาและมารดาจึงได้ตัดสินใจพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และหมอวินิจฉัยพบว่าดวงตาทั้ง 2 ข้างติดเชื้อ จึงได้ให้ยามารักษาตามอาการที่บ้านพัก จนในที่สุดดวงตาทั้ง 2 ข้างของ น.ส.รอยะห์ ค่อยๆเลือนรางและบอดไปในที่สุด

จนกระทั่ง น.ส.รอยะห์ อายุ 25 ปี เกิดความเบื่อนายตัวเองต้องเป็นภาระให้กับบิดาและมารดา ซึ่งยึดอาชีพรับจ้างกรีดยางพารา ซึ่งมีรายได้ไม่พอเพียงมาจุนเจือครอบครัว ซึ่งมีสมาชิกจำนวน 5 คน จึงได้ฮึดสู้เสียชีวิตขึ้นมา และได้เข้าไปพูดคุยกับเพื่อนบ้านที่กำลังนั่งจับกลุ่มกันปักผ้าคลุมศรีษะ จนทราบว่าเมื่อทำแล้วเสร็จจะได้ค่าจ้างผืนละ 2 บาทในสมัยนั้น ตนจึงเริ่มทดลองใช้เส้นด้านร้อยเข้าไปในรูเข็มสักระยะหนึ่ง จนมีความชำนาญ และมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถปักผ้าคลุมศรีษะได้เหมือนกับคนปกติทั่วไป ตนจึงได้ขอแบ่งผ้าคลุมศรีษะจากเพื่อนบ้านมา จำนวน 1 ผืน พร้อมอุปกรณ์ มาทดลองหัดปักผ้าคลุมศรีษะซึ่งในช่วงแรก 1 ผืน กว่าจะเสร็จก็ทำเป็นอาทิตย์จนกระทั่งชำนาญขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้สามารถปักผ้าคลุมศรีษะลายต่างๆที่เขากำหนดแล้วเสร็จภายใน 1 วัน ซึ่งเคล็ดลับที่เราพบเห็นคือ จะใช้หัวแม่เท้าด้านขวาหนีบปลายของผ้าคลุมศรีษะให้ตึง แล้วใช้นิ้วเป็นตัววัดระยะห่างของลูกปัดแต่ละช่อให้เท่าๆกัน ก่อนที่จะเย็บลูกปัดที่ร้อยใส่ไว้ในรูเข็มติดกับผ้าคลุมผม ซึ่งมีความสวยงามไม่แตกต่างกับคนตาดีๆ โดยจะมีรายได้ตามความยากง่ายของลวดลายตกผืนละ 12 บาทขึ้นไป ซึ่งถือว่ามีรายได้ต่อเดือน 300 ถึง 400 บาท นอกเหนือจากเงินผู้พิการที่ได้รับต่อเดือน 800 บาท ที่ดีกว่านั่งอยู่บ้านเฉยๆให้บิดามารดาเลี้ยงดูไปตลอดชีวิตนอกจากนี้จากการพูดคุยกับ น.ส.รอยะห์ ทราบอีกด้วยว่า นอกจากปักผ้าคลุมศรีษะแล้ว ยังสามารถทำอะไรได้อีก น.ส.รอยะห์ ซึ่งเริ่มมีความสนิทสนมและเป็นกันเองมากขึ้น ได้พูดสวนขึ้นมาทันควันว่า ทำกับข้าวให้หลานชายตัวเล็กๆและตนเองกินได้กินแบบง่ายๆ ในระหว่างที่อยู่บ้านด้วยกันเพียง 2 คน

 

เพื่อไม่ให้เป็นภาระของบิดามารดาที่ต้องเหน็ดเหนื่อยกลับจากการรับจ้างกรีดยางพารา คือ การทอดไข่ เราจึงได้ให้ น.ส.รอยะห์ เข้าครัวเพื่อทอดไข่ให้ดู น.ส.รอยะห์ จึงได้ลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวเหมือนกับมีความเคยชินกับบ้านที่อาศัยอยู่ตั้งแต่เด็ก เมื่อถึงห้องครัว น.ส.รอยะห์ ได้หยิบไข่ไก่ตอกใส่ลงไปในถ้วยแล้วใช้ช้อนคนไปมาให้เข้ากัน เมื่อได้ที่ก็เดินเอาไปใส่ในกระทะที่ตั้งน้ำมันให้ร้อนอยู่บนเตา เมื่อไข่สุก น.ส.รอยะห์ ได้ตักไข่ใส่ลงในจาน เป็นอันเสร็จสิ้นความสามารถที่ไม่ธรรมดาของคนตาบอด
ซึ่งเรื่องดังกล่าวที่ไปพบเห็นโดยบังเอิญ เชื่อว่าเมื่อนำไปเผยแพร่สู่สาธารณะชน อย่างน้อยสามารถที่จะปลุกชีวิตของคนท้อแท้ซึ่งมีอวัยวะสมประกอบได้ไม่มากก็น้อย แม้คนตาบอดยังมีความพยายามที่จะฮึดสู้ชีวิต แล้วคนสมประกอบทั้ง 32 ประการไม่อายบ้างก็ให้มันรู้ไป
ในส่วนของผู้มีจิตศรัทธาที่จะร่วมบริจาดเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของ น.ส.รอยะห์ ที่มีรายได้หลักจากการรับจ้างกรีดยางพาราของบิดามารดา ซึ่งถือว่าอยู่ในยุคราคายางพาราตกต่ำ แถมยังไม่สามารถรับจ้างกรีดยางพาราได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยจากผลพวงของฝนที่ตกลงมาในห้วงระยะนี้ ซึ่งเงินบริจาดส่วนหนึ่งอาจจะต้องไปซื้อหาอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ สามารถร่วมบริจาดได้ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาสุไหงปาดี ชื่อบัญชี น.ส.รอยะห์ เจ๊ะแม เลขที่บัญชี 011552787630 ประเภทออมทรัพย์ หรือ โทรศัพท์ติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์มือถือ 080-8638317 จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง