Reporter&Thai Army แถลงข่าว

กองทัพภาค 3 แถลงแผนควบคุมพื้นที่ ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น ปี 61 จำนวน 65 พื้นที่เป้าหมาย พบพื้นที่ ลักลอบปลูกฝิ่นลดลง 1,308.87 ไร่ คิดเป็น 69.44% ของปีที่ผ่านมา

กองทัพภาค 3 แถลงแผนควบคุมพื้นที่ ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น ปี 61 จำนวน 65 พื้นที่เป้าหมาย พบพื้นที่ ลักลอบปลูกฝิ่นลดลง 1,308.87 ไร่ คิดเป็น 69.44% ของปีที่ผ่านมา

พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการศูนย์ ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธาน การประชุมแถลงแผนการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่นปี 2561 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่า ราชการ จ.เชียงใหม่,นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ปปส., พล.ต.ต. วันชัย สุวรรณศิริเขต. รอง ผบช.ภ.6, พ.ต.อ.สุเทพ ฐาปนวรกุล รอง ผบก.ฯ ปรก.ภ.จว.เชียงใหม่, นางทิพาพร ทัศน์ภักดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันสำรวจ และติดตามการปลูกพืชเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงาน ทุกภาคส่วนเข้าร่วมแถลงผลการปฏิบัติงานในครั้งนี้

 

พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพ ภาคที่ 3 เผยว่า การควบคุม พื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น ประจำปี 2561 เป็นการดำเนินงาน ภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองทัพภาคที่ 3, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, สำนักงานคณะ กรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 และภาค 6, สถาบัน สำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด, กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค5, กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค6, จังหวัด/อำเภอที่เกี่ยวข้อง และ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดที่เกี่ยวข้อง (จ.เชียงใหม่, เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, ตาก, กำแพงเพชร, น่าน, พะเยา, ลำปาง, แพร่, เพชรบูรณ์และจังหวัดพิษณุโลก) โดยได้ร่วมกันกำหนดเป็นแผนการฯ ที่มีความประสานสอดคล้องกัน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป

ในปีนี้ โครงการกำจัดพืชเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้ หน่วยในโครงการระดับพื้นที่ได้แก่กองพลทหารราบที่ 4, กองพลทหารราบที่ 7, กองพลทหารม้าที่ 1 และ ฝ่าย ทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพ ภาคที่ 3 พิจารณาจัดกำลังพล เข้าดำเนินการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น ในทุกพื้นที่ เป้าหมายให้ได้จำนวนมากที่สุด ซึ่งได้มีการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบและพิสูจน์ทราบอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่เป้าหมายที่ได้มี การกำหนดและแบ่งมอบไว้ให้แล้ว โดยสถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด สำนักงานเลขาธิการ
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สพส.สำนักงาน ป.ป.ส.) ได้มีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายสำหรับการดำเนินงานไว้ จำนวนทั้งสิ้น 65 พื้นที่เป้าหมาย โดยให้ กองทัพภาคที่ 3 เป็นหน่วยรับผิดชอบเข้าดำเนินการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

ผลการปฏิบัติใน ปี 2561 พบว่าจำนวนพื้นที่ลักลอบปลูกฝิ่นลดลงจากในปี 2560 อาจจะประเมิน ได้ว่ามีสาเหตุมาจาก สภาพอากาศไม่ เอื้ออำนวยมีฝนตก เป็นห้วงติดต่อกัน ระยะยาวกว่าปกติทำให้ฝิ่นที่ลักลอบปลูกและหวังเก็บเกี่ยวในเดือนตุลาคม ถึง เดือนพฤศจิกายน ได้รับความเสียหาย และความร่วมมือจากราษฎรในพื้นที่ อันเนื่องมาจากภาครัฐ ได้เข้มงวด กวดขันกับผู้นำท้องถิ่นและเพิ่มความถี่ใน การติดตามเหตุการณ์ในพื้นที่ ตลอดจนการให้ข้อมูลข่าวต่อทางราชการ รวมทั้งการดำเนินการของ เจ้าหน้าที่รัฐมีการบูรณาการข้อมูลข่าวสารและร่วมปฏิบัติการตัดทำลายไร่ฝิ่นในพื้นที่ตลอดจนการลาดตระเวนพื้นที่รับผิดชอบของกำลังป้องกันชายแดน ทำให้ผู้ลักลอบปลูกฝิ่นเกิดความหวาดระแวงไม่กล้าตัดสินใจที่จะลงทุนลักลอบปลูกซ้ำและการใช้มาตรการบังคับทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องกับเป้าหมายที่มีฐานข่าวดำเนินการในมาตรการ เฝ้าระวังและป้องปรามอย่าง เข้มงวดจริงจัง ในพื้นที่ลักลอบปลูกฝิ่น หนาแน่นโดยเฉพาะพื้นที่ อ.อมก๋อย อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และ อ.ท่าสองยาง อ.แม่ระมาด จ.ตาก นอกจากนี้ภาครัฐ ได้เข้าดำเนินการฝึกอบรม และแนะนำ การประกอบอาชีพทางการเกษตร ให้กับราษฎรในพื้นที่ทำให้ราษฎรมีทาง เลือกในการทำการเกษตร และให้ความ ร่วมมือเพิ่มมากขึ้น

สำหรับผลการดำเนินการตามแผนการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่นประจำปี 2561 กองทัพภาคที่ 3 มีพื้นที่เป้าหมายที่รับผิดชอบของ จำนวน 65 พื้นที่เป้าหมาย ในปี 2561 ได้ตรวจพบพื้นที่ลักลอบปลูกฝิ่นและตัดทำลายไร่ฝิ่น ครอบคลุมพื้นที่ จ.เชียงใหม่,เชียงราย,แม่ฮ่องสอน, ตาก และกำแพงเพชร โดยแบ่งได้ตามพื้นที่ รับผิดชอบของหน่วยในโครงการระดับพื้นที่ ได้แก่ พล.ร.4 โครงการกำจัด พืชเสพติด พล.ร.4 ตรวจพบ 2 พื้นที่, พล.ร.7 โครงการกำจัดพืชเสพติด พล.ร.7 ตรวจพบ 10 พื้นที่, พล.ม.1 โครงการกำจัดพืชเสพติด พล.ม.1 ตรวจพบ 1 พื้นที่และฝทพ.ศปก.ทภ.3 โครงการกำจัดพืชเสพติด ฝทพ.ศปก.ทภ.3 ตรวจพบ 6 พื้นที่

ทั้งนี้ในปี 2560 หน่วยในโครงการ สามารถดำเนินการตัดทำลายในพื้นที่ที่ตรวจพบ รวม 19 พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ พล.ร.4 โครงการกำจัดพืช เสพติด พล.ร.4 ผลการตัดทำลาย ในพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 48 แปลง พื้นที่ 70.18 ไร่, พื้นที่นอกเป้าหมาย 4 แปลง พื้นที่ 2.38 ไร่ รวม 52 แปลง พื้นที่ 72.56 ไร่, พล.ร.7 โครงการ กำจัดพืชเสพติด พล.ร.7 ผลการ ตัดทำลาย ในพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 195 แปลง พื้นที่ 136.98 ไร่, พื้นที่นอก เป้าหมาย 4 แปลง พื้นที่ 2.38 ไร่ รวม 199 แปลง พื้นที่ 139.36 ไร่, พล.ม.1 โครงการกำจัดพืชเสพติด พล.ม.1 ผลการตัดทำลายนอกพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 3 แปลง พื้นที่ 1 ไร่ และฝทพ.ศปก.ทภ.3 โครงการกำจัดพืชเสพติด ฝทพ.ศปก.ทภ.3 ผลการตัดทำลาย ในพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 393 แปลง พื้นที่ 360.11 ไร่, พื้นที่นอกเป้าหมาย 9 แปลง พื้นที่ 3.12 ไร่ รวม 402 แปลง พื้นที่ 363.23 ไร่

ในส่วนผลการตัดทำลายไร่ฝิ่นทั้งใน และนอกพื้นที่เป้าหมาย ในปี2560 ที่ผ่านมา มีการลักลอบปลูก จำนวน 1,885.02 ไร่ และในปี 2561พบว่า มีการลักลอบปลูกจำนวน 576.15 ไร่ ลดลง 1,308.87 ไร่ คิดเป็น 69.44% ของปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 3 และ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 อนุมัติให้ โครงการกำจัดพืชเสพติดกองทัพภาคที่ 3 โดย กองทัพน้อยที่ 3 จัดตั้งกอง บัญชาการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 และหน่วยเฉพาะกิจ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ณ ค่ายพระปิ่นเกล้า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 เพื่อควบคุมอำนวยการและกำกับ ดูแลการปฏิบัติงานของหน่วยในโครงการ ระดับพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วย กองพลทหารราบที่ 4, กองพลทหาร ราบที่ 7, กองพลทหารม้าที่ 1 และ ฝ่ายทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่3 ที่ปฏิบัติงานตามแผนการ ควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัด
ทำลายไร่ฝิ่น ประจำปี2561 โดย ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( สำนักงาน ป.ป.ส.)
การดำเนินงานตามแผนงาน โครงการ กำจัดพืชเสพติด กองทัพภาคที่ 3 เป็นส่วนงานหนึ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคาม ต่อความมั่นคงของประเทศชาติอยู่ในปัจจุบัน โดยได้ดำเนินการควบคุม พื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น เพื่อทำให้พื้นที่ ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่น และพืชเสพติดชนิดอื่น ๆ ในภาคเหนือ มีปริมาณลดลงและหมดสิ้นไปในที่สุด.

ทรงวุฒิ ทับทอง ข่าว/
นิมิตร โปธา ภาพ..