21 มีนาคม 67 ที่ห้องประชุม สนง.ป.ป.ช.ประจำ จ.นราธิวาส นายปกครอง สุวรรณดารา ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนราธิวาส นายชวลิต ไกรน้อย เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ และนายณัฐพงษ์ รัตนบงกต พนักงานไต่สวนระดับสูง พร้อมด้วยเครือข่ายภาคประชาชนสตรองจิตพอเพียงด้านการทุจริต รวม 30 คน เข้าร่วมแถลงข่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดกรณีเกี่ยวกับการกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการ จำนวน 2 คดี จากทั้งหมด 49 เรื่อง และอยู่ในระหว่างการไต่สวนอีก 21 เรื่อง
โดย นายปกครอง ผอ.สนง.ป.ป.ช.ประจำ จ.นราธิวาส ได้แถลงข่าว คดี 2 คดี คือ คดีที่ 1. การกระทำความผิดของนายนิรัตน์ นราฤทธิพันธุ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนสุไหงโก-ลก ได้รับเงินบริจาดจากคู่สัญญาของโรงเรียน แต่ไม่นำเงินบริจาดไปมอบให้แก่ฝ่ายการเงิน แต่กลับนำเงินบริจาดไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งยอดเงินทั้งหมด 300,000 บาท แต่ให้ฝ่ายการเงินเพียง 53,500 บาท ส่วนต่างอีก 246,500 บาท ที่จะต้องคืนให้ฝ่ายการเงิน ซึ่งทาง ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนไปทางอัยการสูงสุดในวันที่ 29 ก.พ.67 และส่งสำนวนไปยัง สพม.ในวันที่ 28 ก.พ.67 โดยอยู่ในอำนาจของอัยการสูงสุดและอำนาจหน้าที่ของ สพม. ซึ่งการชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
คดีที่ 2. กรณีนายชัยยุทธ เต็มหิรัญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิชาการแรงงานชำนาญการ สังกัดสำนักงานแรงงาน จ.นราธิวาส ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายนโยบายและแผนละมีอำนาจหน้าที่ บริหารและกำกับดูแลสำนักงานแรงงาน จ.นราธิวาสแทนแรงงาน จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2556 จำเลยทำสัญญายืมเงินของ สนง.แรงงาน จ.นราธิวาส 558,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายฝึกอบรมดูงานของบัณฑิตแรงงาน ระหว่างวันที่ 13 ถึง 16 ก.ย.56 ที่สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช ที่อนุมัติยืมเงินราชการด้วยตนเอง โดยโครงการดังกล่าวมีผู้เข้าร่วม 150 คน อันเป็นความเท็จ เนื่องจากมีผู้ร่วมโครงการจริงเพียง 112 คน ซึ่งเงินส่วนต่างอีก 128,440 บาท ที่จำเลยต้องคืนให้แก่ สนง.แรงงาน จ.นราธิวาส แต่จำเลยกลับมิได้ส่งคืนภายในวันที่กำหนด การกระทำของจำเลยในฐานะเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ทำและรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต แสวงหาผลประโยชน์ที่มิได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ศาลพิพากษาจำเลยมีความผิดเป็นบทที่มีโทษหนักสุด จำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 2 ปี คุมประพฤติ 1 ปี ให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 เดือนต่อครั้ง
ด้าน นายณัฐพงษ์ รัตนบงกต พนักงานไต่สวนระดับสูง ได้กล่าวถึงกรณีโกดังเก็บดอกไม้ไฟที่มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่เกิดระเบิดขึ้นในวันที่ 29 ก.ค.66 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากนั้น ทาง ป.ป.ช.ประจำ จ.นราธิวาส ได้รับการไต่สวนจากพนักงานสอบสวนที่ส่งมาให้ดำเนินการ 9 คน โดยแยกเป็นเจ้าหน้าที่ประจำ อบต.มูโนะ 4 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย และทหาร 1 นายนั้น เมื่อพนักงานสอบสวนส่งเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ช. พนักงาน ป.ป.ช.ก็มีมติส่งกลับไปยังไปพนักงานสอบสวนให้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ส่งกลับมาให้ยัง ป.ป.ช. ซึ่งพนักงาน ป.ป.ช. ก็จะพิจารณาว่ารายงานของพนักงานสอบสวนที่ทำมานั้น มีความเที่ยงธรรมหรือไม่ ซึ่งถ้ามีความเที่ยงธรรมพนักงาน ป.ป.ช. ก็จะให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการ ถ้าไม่เป็นธรรมพนักงาน ป.ป.ช.จะดำเนิดการเอง ซึ่งตรงนี้ขอยืนยันและรับประกันว่าคดีมูโนะพี่น้องชาวจังหวัดนราธิวาสต้องได้รับความเที่ยงธรรม เราจะไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหลุดและลอยนวลไปได้
นูอารีซ๊ะ ยะยือริ รายงาน