จับแล้วโจ๋ป่วนเมือง ตร.ช้างเผือก ลงพื้นที่ติดตามกลุ่มวัยรุ่น สร้างความเดือดร้อนให้สุจริตชน พร้อมของกลางดำเนินคดี
จากกรณีที่เป็นข่าว เหตุการณ์โจ๋ป่วนเมือง กว่า 20 คน ออกแว้นป่วนเมืองตอนตี 5 ปาประทัดและพังรถจักรยานยนต์ชาวบ้าน ทำผวาไปทั้งชุมชน
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 66 เวลาประมาณ 05.18 น. กล้องวงจรปิดหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ บริเวณแยกวงเวียนชุมชนช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เผยให้เห็นกลุ่มวัยรุ่นทั้งชายหญิงมากกว่า 20 คน จับกลุ่มขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านไปที่บริเวณวงเวียน ก่อนที่จะมีชายวัยรุ่นสวมเสื้อฮู้ดแขนยาว สวมหน้ากากอนามัย เดินลงมา และปาประทัด เข้าไปในร้านเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ต่อมา เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 66 เวลาประมาณ 07.24 น. ได้รับแจ้งจาก ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของร้านซ่อมรถ ดังกล่าว แจ้งว่า วันนี้ (20 ต.ค.66) เวลาประมาณ 05.18 น. ได้มีกลุ่มวัยรุ่นใช้รถจักรยานยนต์ ประมาณ12 คัน ซับจักรยานยนต์มาจากทางด้านป่าช้าช่างเคี่ยน เข้ามาบริเวณหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ของผู้แจ้งโดยได้มีวัยรุ่น 2 คน ได้จอดรถและได้เข้ามาบริเวณหน้าบ้านของผู้แจ้ง โดยชายคนหนึ่งได้คว้าประทัดเข้ามายังบริเวณบ้านของผู้แจ้ง และใช้เหล็กยาว คล้ายอาวุธมีดฟันมายังรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อห้อฮอนด้า รุ่นสกุ๊ปปี้สีน้ำเงิน ขาว ที่จอดไว้บริเวณหน้าร้าน ได้รับความเสียหายบริเวณไฟท้ายหลังรถ และชายอีกคนหนึ่งยังได้ผลักจักรยานยนต์อีกคันจนล้มจากนั้นกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมด ได้ขับรถจักรยานยนต์หนีไปทางด้านศูนย์ประชุมนานาชาติทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย ไฟท้ายรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ สีน้ำเงิน ขาว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.ช้างเผือกได้ออกติดตามสืบสวนและสามารถจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิดมาได้แล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น อายุ 18 ปี จำนวน 7 คน, อายุ 17 ปี จำนวน 2 คน, อายุ 16 ปี จำนวน 1 คน อายุ 15 ปี จำนวน 2 คน และ อายุ 14 ปี จำนวน 1 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 13 คน พร้อมอุปกรณ์ อาวุธต่างๆที่ใช้ในการกระทำความผิดและมีไว้ในครอบครอง รวมทั้งมีการเรียกผู้ปกครอง ของเยาวชนที่จับกุมได้มารับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินการตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ในส่วนของ สภ.ช้างเผือก ที่ผ่านมาได้ออกทำการตรวจยึดรถและทำประวัติ ผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงและประพฤติตนไม่เหมาะสม ก่อความเดือดร้อน รำคาญให้แก่พี่น้องประชาชนมาโดยตลอด เพื่อเป็นการป้องปรามและติดตามในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.
ทรงวุฒิ ทับทอง