ตำรวจสบปราบ จ.ลำปาง จับหญิงวัย 39 ปี ขับรถยนต์เก๋งผ่านด่านตรวจยาเสพติดฯ พบโทรศัพท์มือถือมากถึง 53 เครื่องใส่ถุงดำ ซ่อนไว้ใต้เบาะข้างคนขับ อ้างรับจ้างขนมาจากจ.เชียงราย นำไปส่งที่จ.ตาก เจ้าหน้าที่เชื่อว่า น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ร้อยตำรวจตรี เฉลิมชัย เทพอุด รองสารวัตรฝ่ายป้องกันและปราบปราม ตำแหน่งหัวหน้าด่านตรวจยาเสพติด สภ.สบปราบ อำเภอสบปราบจังหวัดลำปาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งด่านตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย ตรงข้ามกับวัดชัยศรีภูมิ ก่อนถึงหน้าสภ.สบปราบ พบรถยนต์เก๋ง ต้องสงสัยสีขาว ป้าย ทะเบียน เชียงใหม่ คนขับ เป็นผู้หญิง เมื่อถูกเรียกตรวจ กลับมีท่าทางตื่นกลัว และมีท่าทางลุกลี้ – ลุกล่น ตำรวจจึงขอตรวจค้นภายในรถยนต์เก๋ง พบว่ามีโทรศัพท์มือถือ จำนวนมากใส่ในถุงดำ ซ่อนใต้ที่นั่งข้างคนขับ จึงนำมาตรวจสอบพบว่าเป็นโทรศัพท์สมาร์โฟน จำนวน 53 เครื่อง พร้อมซิมการ์ดและต้องใช้รหัสเปิดหน้าจอ ซึ่งหญิงคนดังกล่าว อายุ 39 ปี เป็นชาวกรุงเทพฯ
โดยอ้างว่านำโทรศัพท์เหล่านี้มา จากคนรู้จักชื่อเสี่ยเสนา มาจากจังหวัดเชียงราย และให้นำไปส่งที่จังหวัดตาก ได้รับจ้างเป็นเงิน 10,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงทำการตรวจยึดโทรศัพท์ไว้ทั้งหมด และแจ้งข้อหากับหญิงคนดังกล่าว มีใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และอยู่ระหว่างการขยายผล พร้อมทั้งแจ้งให้กับพันตำรวจเอก ณัฐญ์วสุภ์ แสงณิรัฒศัย ผกก สภ.สบปราบ รวมทั้ง พลตำรวจตรี ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 รวมถึงนายอำเภอสบปราบ เพื่อให้รับทราบและจะได้ขยายผลถึง นายทุนที่ว่าจ้าง ให้นำโทรศัพท์ไปส่ง
ทั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ใช้โทรศัพท์ในการหลอกลวงประชาชน ได้รับความเสียหายซึ่งตำรวจชุดจับกุม ทางผู้บังคับบัญชา ได้ชื่นชมที่มีปฎิภาณไหวพริบในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมืออาชีพ.
