พ่อผู้เสียชีวิต ที่ถูก เชษฐ์ ห้วยเสือ รัว11ม.ม ดับ!หวั่นตนเองไม่ปลอดภัย เตรียมยื่นคัดค้านประกันตัว ด้านพี่สาว เผยถึงรางบอกเหตุก่อนที่น้องชายจะเสียชีวิต
นายธงชัย คำสอน อายุ69ปี พ่อของนายอนันต์ คำสอน อายุ39ปีหนุ่มดวงซวยที่ถูกนายพงษ์ศิริวัฒน หรือ เชษฐ์ นิทัศน์เกษม อายุ49 ปีใช้อาวุธปืนขนาด11มม จ่อยิงกลางร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่1บ้านแม่ประจันต์ ต.วังไคร้ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี อย่างอุกอาจ ช่วงเวลา10.00 น ของวันที่18 ธันวาคม 61 ที่ผ่านมา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวขณะรับศพนายอนันต์มาตั้งสวดบำเพ็ญกุศลบริเวณศาลาการเปรียญภายในวัดแม่ประจันต์ ว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยแจ้งให้ตำรวจจับกุมนายพงศ์ศิริวัฒน แต่อย่างใดเลย โดยตนจำได้ว่า เมื่อหลายปีก่อน เคยเห็นนายพิเชษฐ์ หรือ เชษฐ์ ซึ่งตอนหลังมาเปลี่ยนชื่อเป็นนายพงศ์ศิริวัฒน มีอาวุธปืนอาก้าไว้ในครอบครอง แต่ตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวด้วย และก่อนหน้านั้นเป็นความบังเอิญที่ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตรวจค้นบ้านของนายพงศ์ศิริวัฒน นั้น ความเป็นจริงก็คือเจ้าหน้าที่ได้ขับรถสวนทางกับตนเท่านั้น กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจึงพบอาวุธสงครามจากนายพงศ์ศิริวัฒน จำนวน1กระบอก และจบคดีความไปนานแล้ว กระทั่งนายพงศ์ศิริวัฒน ถูกดำเนินคดีฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าจนถูกศาลพิพากษาให้จำคุกหลายปีและเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ประมาณ8เดือน แต่ก็ยังฝังใจและเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นผู้แจ้งเจ้าหน้าที่ กระทั่งมาเกิดเหตุกับลูกชายตนจนถึงแก่ความตาย
นายธงชัย หรือ เอี้ยง คำสอน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตนมีความกังวนมากว่า ผู้ก่อเหตุที่ยิงลูกชายตนจะได้รับการประกันตัว ซึ่งหากได้รับการประกันตัว เกรงว่า ตนจะไม่ได้รับความปลอดภัย ซึ่งตนจะขอคำปรึกษากับร้อยเวรสอบสวน ขอยื่นเรื่องการคัดค้านการประกันตัว ขอให้ผู้ต้องหาได้รับโทษตามขบวนการของกฏหมายให้ถึงที่สุด เพราะตนเพิ่งมาทราบจากชาวบ้านใกล้เคียงว่า ก่อนหน้านั้นมีคนเห็นว่านายพงศ์ศิริวัฒน ขับขี่รถมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวใกล้เคียงกับบ้านตน ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะมีจุดประสงค์ร้ายกับตน แต่มาเกิดเหตุกับลูกชายของตนในวันนี้
ด้านนางติ๋ว พี่สาวของนายอนันต์ เปิดเผยถึงรางบอกเหตุว่า ช่วงก่อนวันเกิดเหตุเพียงวันเดียว นายอนันต์น้องชายได้มาปิ้งหมูให้ตนกินและมาขอกอดตนและขอถ่ายรูปคู่ด้วย พร้อมกับพูดว่า หากไม่ให้ตนปิ้งหมูให้กิน ก็จะไม่มีโอกาสได้ทำอาหารให้พี่กินอีกแล้ว และหากไม่ได้ถ่ายรูปคู่ในวันนี้ ก็จะไม่มีวันที่เราจะได้รูปคู่กันอีกแล้ว ซึ่งตนก็แอบคิดว่าทำไมน้องชายถึงพูดแบบนั้น กระทั่งมาเกิดเหตุในที่สุด ส่วนเรื่องคดีก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
กสิพล- เพชรบุรี