ที่ ลานพิกุล มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส พันตำรวจเอก ทวี สอดส่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ เปิดงาน มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรมและ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม และผู้เข้าร่วมงาน มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็น ธรรม ด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2558 ประชาชนที่เป็นหนี้ ที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์ฟ้อง หรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้เข้าร่วมงานจะได้รับประโยชน์ ในกรณีก่อนฟ้อง คือ การผ่อนผันการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดฟ้องดำเนินคดี และรับเงื่อนไขปลดผู้ค้ำประกัน สำหรับในส่วนของชั้นบังคับคดี หรือหลังคำพิพากษา ประโยชน์ที่จะได้รับ คือ การขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดจำนวนเงิน ผ่อนชำระหนี้ งดยึดทรัพย์ งดขายทอดตลาด ลูกหนี้จะไม่ถูกบังคับคดี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า รัฐบาลบาลยังเป็นรัฐบาลชุดเดิมที่เราทราบกัน นโยบายคนลดภาระ เรื่องหนี้ครัวเรือนเป็นนโยบายหลักที่เราจะต้องมาแก้ไข ซึ่งเราจะทำสิ่งแรกคือ ลดภาระหนี้สินของประชาชนให้ประชาชนสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขของการลดหนี้สิ้นของประชาชน โดยหนี้กองแรกที่เราจะต้องทำร่วมกันก็คือ หนี้เรื่องการศึกษา เพราะหนี้เรื่องการศึกษาจะมีผลต่อทุกคน เนื่องจากหนี้ของการศึกษามันเป็นหนี้ บุริมสิทธิ นายจ้างยึดเงินแล้วจะทำให้หนี้อื่นๆกระทบต่อการทำงานจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน หนี้เรื่องการศึกษา หนี้เรื่องเกษตร และหนี้ที่สำคัญที่ต้องเข้าไปช่วยนั้นก็คือ สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งกองหนี้มันเป็นหนี้ที่เราร้อนเงิน อย่างเช่นเงินด่วนที่เราไปเอามา และเอาบัตรเครดิตมาใช้ล่วงหน้าที่จะทำให้ไปสร้างความเจริญได้ และที่สำคัญก็คือ เราอยากให้เห็นเป็นรูปธรรมใน3 จังหวัดหรือทุกประเทศ วางแผนกับ กยศ ว่า ทำประโยชน์ต่อว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ ที่อยากจะปลดผู้ค้ำ ซึ่งมีประมาณเกือบ 3ล้านคน ที่เป็นพ่อแม่ ที่เป็นผู้ค้ำออก เพื่อคืนความสุขให้ อันนี้คือเป้าหมายที่เราจะทำ ที่มีตัวชี้วัด เรียกว่าวันนี้มานราธิวาส มีลูกหนี้จำนวนเยอะ คืออาจจะไม่เยอะกว่าที่อื่น แต่นราธิวาสเนื่องจากช่วงที่ไปเรียน ไปเรียนกรุงเทพแล้วกลับมาอยู่นราธิวาส เราจึงลดภาระให้โดยหลังจากนี้ให้เตรียมฟังข่าวกระทรวงจังหวัดกับท่าน สส. แจ้งว่าเราจะมีจุดต่างๆ หลายอำเภอว่าจะไปปรับปรุงสร้างหนี้ที่ไหน และก็เพื่ออำนวยความสะดวกนี้ก็เป็นสิ่งที่เราอยากจะเรียนให้ทราบ
ยธ.กล่าวอีกว่า วันนี้ก็ดำเนินการที่นราธิวาสต่อไปปัตตานี และไปยะลา คือ 3 จังหวัด เมื่อวานซืนก็สงขลา 3จังหวัดนี้ประมาณ 144,000 ผู้ค้ำประมาณหรือกว่า รวมๆก็บางคนประมาณ300,000กว่าคน รวมถึงคนในครอบครัวด้วยที่เป็นทุกข์ เลยวางเป้าหมายและอยู่ที่ความร่วมมือของลูกหนี้ด้วย เพราะบางคนก็ไปอยู๋ที่อื่น อาจจะไปอยู่ภูเก็ต มาเลเซีย เราก็จะพยายามช่วงนี้จะเชิญชวนอำนวยความสะดวกให้มาปรับโครงสร้างของผู้ค้ำ เพราะจะได้ปลดผู้ค้ำและจะได้รู้ และพอปรับไปแล้วจะได้ยืดไปอีก 15 ปี และจากตัวเลขก็จะน้อยลง และที่สำคัญเราจะต้องปลดคนที่ทุกข์กว่าเราก็คือคนหลังกำแพงคนที่จะต้องโดนจับ ใน3จังหวัดนี้ มีเรื่องจำอยู่2แห่ง คือ ยะลา ที่เบตง มันจะมีผู้ต้องขังที่เป็นหนี้ กยศ จะปลดนี้ให้ด้วย เป้าหมายก็สิ้นปีอยากทำให้หมด อยากปรับโครงสร้างหนี้ให้หมด