ข่าว สรุาษฎร์ธานี ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวเด่น

ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ  

18 มีนาคม 2567  ที่ ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี) ครั้งที่ 3/2567 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมการประชุม เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ด้วยกระทรวงมหาดไทยแจ้งให้จังหวัดจัดประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัด (กรอ.จังหวัด) อย่างสม่ำเสมอตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 โดยให้จัดประชุมอย่างน้อย 2 เดือน/ครั้ง ดังนั้น เพื่อขับเคลื่อนการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสุราษฎร์ธานี (กรอ.จังหวัดสุราษฎร์ธานี)ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น จึงได้ทุกภาคส่วนมาประชุม เพื่อร่วมพูดคุย ให้คำปรึกษา ข้อเสนอแนะ องค์ความรู้ ฯลฯ ในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ฯลฯ เพื่อให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มจังหวัด กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานระดับประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง กรอ.ส่วนกลาง รับทราบและประสานการปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหา หรือสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาในมิติต่าง ๆ ต่อไป

 

โดยในการประชุมในวันนี้คณะกรรมการได้พิจารณาในประเด็นการหารือการเตรียมความพร้อมในการจัดทำข้อเสนอแผนงาน/โครงการต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และโครงการบริหารจัดการขยะในพื้นที่เกาะ (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า)และการจัดการสิ่งแวดล้อมทางทะเล พิจารณาโครงการจัดตั้งศูนย์บริการส่งออกสินค้าเบ็ดเสร็จ พร้อม Lab รับรองคุณภาพและออกใบรับรองสินค้าเกษตร (One Stop Export Center : OSEC) พิจารณาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยว และโครงการศึกษาและออกแบบทางรถไฟสายใหม่เพื่อการท่องเที่ยวเส้นทาง สุราษฎร์ธานี – พังงา – ภูเก็ต พิจารณาโครงการขยายเส้นทางสาย 41 เป็น 6 ช่องเดินรถ และพิจารณาโครงการจัดตั้งศูนย์สาธิตการเกษตรทันสมัยและกิจกรรม Farm to table (LISA Model) รวมถึงการพิจารณาโครงการปรับปรุงและพัฒนาภูมิทัศน์พื้นที่ริมน้ำแม่น้ำตาปี และพื้นที่ต่อเนื่อง.