พะเยา จังหวัดสนธิกำลังเร่งช่วยเหลือชาวบ้านถูกน้ำป่าพัดและตามหาร่างเด็ก 10 ขวบที่ยังสูญหาย
วันที่ 17 ต.ค 66 นายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บ้านห้วยก้างปลา หมู่ที่13 ตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน เพื่อเร่งช่วยเหลือราษฎร รวมถึงเร่งฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ หลังจากเมื่อกลางดึกของวันที่ 15 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกต่อเนื่องอย่างหนักในพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่หมู่บ้านห้วยกั้งปลา โดยกระแสน้ำได้พัดบ้านเรือนราษฎรพังเสียหายทั้งหลัง จำนวน 2 หลังคาเรือน และเสียหายบางส่วน 4 หลังคาเรือน รวม 6 หลังคาเรือน โดยเหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และสูญหาย 1 รายด.ญ.กัญญารัตน์ ฟุ้งเรืองฤทธิ์ อายุ 10 ปี ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบร่างของเด็กหญิงคนดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ยังคงออกระดมกำลังคนหาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว ยังทำให้ทรัพย์สินของราษฎรในพื้นที่ได้รับความเสียหายนจำนวนมาก เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ข้าวของเครื่องใช้ สัตว์เลี้ยง ถูกกระแสน้ำพัดสูญหาย และได้รับความเสีบหายด้วย และยังมีพื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเสียหายจำนวนมากด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ ก็ได้รับผลกระทบ คอสะพานขาด ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอเชียงม่วน และดอกคำใต้ โดยล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงพะเยา ได้ดำเนินการซ่อมแซม รถยนต์เล็กสามารถเดินทางผ่านได้แล้ว หลังจากเกิดเหตุ ทางจังหวัดพะเยา ก็ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งฝ่ายปกครอง อำเภอเชียงม่วน เหล่ากาชาดจังหวัดพะเยา กิ่งกาชาดอำเภอเชียงม่วน เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา ตำรวจ สภ.เชียงม่วน ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 มทบ.34 ร.17 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพะเยา สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดพะเยา แขวงทางหลวงพะเยา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือค้นหาผู้สูญหาย รวมถึงการฟื้นฟู ทั้งในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า และน้ำประปา เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว และการฟู้ฟื้นในเรื่องของจิตใจ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่กระทบด้านจิตใจประชาชน ส่วนความช่วยเหลือเยียวยาผู้สูญเสีย จะได้เร่งดำเนินการตามระเบียบของ
ด้านภรรยา นาย ภานุพันธ์ สุรเมธีมานพ อายุ 50 ปี ผูเสียชิวิต ได้เล่าว่า ในคืนที่เกิดเหตุ ได้นอนอยู่บนบ้าน ซึ่งเกิดฝนตกหนักทั้งคืน พลเอกและสามีนึกว่ามีแต่ฝน ไม่นึกว่าจะมีน้ำหลากมาขนาดนี้ หลังจากนั้นจึงลงมาดู น้ำเต็มพื้นบ้าน จนออกไปไหนไม่ได้ หลังจากนั้นเห็นรถยนต์ไหลไปกับน้ำ หากสามีตนเองจึง ได้พยายาม ที่จะเอารถ ไม่ให้ไหลไปกับสายน้ำ แต่เนื่องจากน้ำป่าได้หลากและไหลแรงจึงทำให้สามีของตนเองไหลไปกับรถและทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
ด้านพี่สะใภ้ผู้เสียชีวิต ได้เล่าว่า ฝนตกทั้งคืน ทำให้มวลน้ำไหลเชี่ยวล้อมรอบหมู่บ้าน ซึ่งบ้านน้องสาวและน้องเขย ถูกน้ำล้อมรอบ และพัดเอารถและบ้านพังลงมาทั้งหลัง ชมทางด้านน้องเขยได้ไหลไปกับ รถ จึงทำให้เสียชีวิต ตอนนี้ตนเองเป็นผู้สูญเสียที่หนักมากพูดอะไรไม่ออก ซึ่งที่ผ่านมาเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นตลอดแต่ไม่หนักหนาเหมือนครั้งนี้ ซึ่งสร้างความสูญเสียให้กับครอบครัว