17 กรกฎาคม 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (แจ้งวัฒนะ) แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพ พันเอกปณต เขตต์สันเทียะ และทีมกฎหมายของ พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในประเด็นที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี มีผู้สมัครขาดคุณสมบัติเนื่องจากมีคดีทุจริตก่อนสมัครเลือกตั้ง
พันเอกปณต เขตต์สันเทียะ กล่าวว่า ในนามของทีมกฎมายเราได้ตรวจพบว่า มีผู้สมัครท่านหนึ่งขาดคุณสมบัติในการขาดคุณสมบัติลงเลือกตั้งฯ ตามกฎหมายของการเลือกตั้ง เพราะว่าเคยถูกเพิกถอนหรือถูกให้หยุดให้ปฏิบัติหน้าที่ โดยมีคำสั่ง คสช.ที่ 35/60 โดยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และให้พ้นจากหน้าที่ออกไปโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม แต่ว่าการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องการทุจริตได้มีการสอบสวนต่อโดย ปปช. ผลคดีของ ปชช. เท่าที่ทราบกับดีคือว่า ได้ชี้มูลความผิดว่า มีมูลว่าทุจริตจึงมีคำสั่ง และได้ส่งเรื่องให้อัยการดำเนินคดี
แต่ปรากฏว่า คณะกรรมการของอัยการได้มีความเห็นแย้งเนื่องจากพยานหลักฐานไม่พอ หลังจากนั้นเท่าที่ทาบคือจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่าง อัยการ และ ปปช. ผลที่สุด ปปช.มีความเห็นว่าควรจะสั่งฟ้องเอง จึงได้นำเรื่องส่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจริต ในส่วนที่เรายื่นเรื่องวันนี้นั้น เราไม่ได้ฟ้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ตามที่อาจารย์ทางกฎหมายและผู้รู้กฎหมายได้ชี้ในประเด็นนั้นไว้ แต่ทีมกฎหมายของเราเห็นว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ไม่สอบด้วยกฎหมาย เพราะว่าผู้สมัครขาดคุณสมบัติก่อนวันที่ลงสมัคร ในเมื่อ ปปช.ได้ชี้มูลตามความผิดข้อหาเกี่ยวกับการทุจริต ซึ่งกฎหมายก็เขียนไว้อยู่แล้วว่าคนที่ทุจริตขาดคุณสมบัติที่จะลง จึงมี 2 ครั้ง โดยในครั้งที่ 1. เมื่อปี 60 ตามคำสั่ง คสช. ที่ 35/60 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และ 2. มีคำสั่งชี้มูลความผิดเมื่อ 31 มีนาคม 2564 ของ ปปช. เราจึงถือว่าผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ขาดคุณสมบัติที่จะลงรับเลือกตั้ง.