สืบเมืองเชียงใหม่โชว์ผลงานสืบจากกล้องวงจรปิดติดตามจับกุมคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยววันเดียว 3 ครั้งติดในเวลาไล่เรี่ยกัน
วันที่ 17 ก.ค.62 เวลา 10.30 น. พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จีระนันตสิน ผบก. ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ศิริเดชอนันต์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ แถลงข่าวจับกุมคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลาง สืบเนื่องจากผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นได้ให้ความสนใจเนื่องจากเกิดเหตุใจกลางเมืองและก่อเหตุติดกันถึง 3 เคส ในเวลาใกล้เคียงกันและกระทำต่อนักท่องเที่ยวแบบอุกอาจ และไม่เกรงกลัวกฎหมายทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ต่อเมืองเชียงใหม่ และหากจับคนร้ายไม่ได้เชื่อว่าคนร้ายจะก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวซ้ำอีกโดยเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 เวลา 00.05 น. โดยการอำนวยการของพล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล รองผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้ารองผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรืองรองผบช.ภ. 5, พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ บุญประสิทธิ์ รองผบก.ภ.จว. เชียงใหม่, พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ศิริเดชอนันต์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการสภ.เมืองเชียงใหม่ นำโดยพ.ต.ท.นริช สอนดิษฐ รองผกก.ฯ พ.ต.ต.ชุวาพล ชัยสาร สว.สสฯ, พ.ต.ตเอกสิทธิ์ แก้วนันตา สว.สส.ฯ,ร.ต.ทธีรวัฒน์ บุญแต้ม รองสว.สส.ฯพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ได้ทำการจับกุม นายศราวุธ พรหมสวัสดิ์อายุ 44 ปี พร้อมด้วยนางเกศมณี บุญอินทร์ อายุ 29 ปี ข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพกพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นจากการจับกุม พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น Scoopy I สีดำหมายเลขทะเบียน 1 กค 4869 ลำพูนจำนวน 1 คัน กระเป๋าแบบถือสีดำสายสีน้ำตาลจำนวน 1 ใบกระเป๋าผ้าใบเล็กลายสีน้ำตาล 1 ใบ โทรศัพท์มือถือฯลฯ
โดยพฤติการณ์ก่อนการจับกุมเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 เวลาประมาณ 20.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งว่ามีเหตุวิ่งราวทรัพย์ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ที่บริเวณหน้าวัดเชียงมั่น ถนน ราชภาคีนัย ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพร้อมกับตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดต่อมาเวลาประมาณ 22.30 นได้รับแจ้งว่ามีเหตุวิ่งราวทรัพย์ครั้งที่ 2 ที่บริเวณหน้าจินดาเฮ้าส์ ถนนมูลเมือง ซอย 6 ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ครั้งที่ 3 เหตุเกิดบริเวณปากซอยถนนพระปกเกล้าซอย 3 ตำบลพระสิงห์อ. เมืองเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสถานที่เกิดเหตุซึ่งจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จากบริเวณสถานที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 นั้น พบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มีจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda Scoopy I สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนแต่ยังไม่ทราบหมายเลขทะเบียน คนร้ายที่เป็นคนขับมีรูปร่างสันทัด ใส่เสื้อแขนยาวสีดำกางเกงสั้นสีดำสวมรองเท้าสีดำและใส่หมวกแก๊ปสีดำ ส่วนคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายนั้นมีรูปร่างท้วมสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทากางเกงขาสั้นสีขาวสวมรองเท้าแตะสีแดงและสวมหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบ แล้วเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2562 ได้มีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โดยมีผู้ก่อเหตุ 2 คนเช่นกัน และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่แสดงภาพคนร้ายจำนวน 2 คนที่ก่อเหตุมาเปรียบเทียบกันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมคาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2562 และวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 นั้น คือคนร้ายคนเดียวกัน และดูจากพฤติการณ์การกระทำความผิดของคนร้ายเหมือนกันและจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 13 กรกฎาคม 2562 นั้นหลังก่อเหตุแล้วคนร้ายทั้งสองได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางวัดสวนดอก ต.สุเทพ อ. เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งจุดสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจสอบและพบคนร้ายทั้งสองนั่นคือบริเวณซอยข้างวัดสวนดอกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมคาดว่าคนร้ายทั้งสองน่าจะหลบหนีมายังบริเวณวัดสวนดอก
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ประชุมเพื่อให้ทราบถึงตำหนิรูปพรรณและยานพาหนะของคนร้ายตามภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดและได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมาเวลาประมาณ 23.30 น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำกำลังไปตรวจสอบบริเวณวัดสวนดอกสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.55 น. ได้มีชายไม่ทราบชื่อและนามสกุล สวมเสื้อแขนยาวสีดำกางเกงขาสั้นสีดำสวมรองเท้าสีดำและใส่หมวกแก๊ปสีดำขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda Scoopy I สีดำหมายเลขทะเบียน 1 กค 4869 ลำพูน โดยมีผู้หญิงรูปร่างท้วมสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทาและกางเกงขาสั้นสีขาวสวมรองเท้าแตะสีแดงและสวมหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบ ขับขี่จักรยานยนต์มาบริเวณสี่แยกไฟแดงหน้าโรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ ซึ่งมีลักษณะตําหนิรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายทั้งสองคนที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าตรวจสอบแต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมใกล้จะถึงผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ชายคนขับได้หันมามองเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พร้อมกับได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ไปอย่างรวดเร็วและฝ่าฝืนสัญญาณจราจรซึ่งขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟแดงขับรถหลบหนีไปทางถนนคันคลองชลประทาน คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รีบติดตามไปอย่างกระชั้นชิดและเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้จะถึงตัวคนร้ายชายคนขับได้เลี้ยวรถจักรยานยนต์แบบกระทันหัน จึงทำให้รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายขับขี่มาเสียหลักล้มลงบริเวณริมถนนคันคลองชลประทาน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้พร้อมของกลาง
จากการสืบสวนสอบสวนผู้ต้องหายอมรับต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าก่อนหน้าที่จะถูกจับกุมตนเองก่อเหตุลักทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์ในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่อีก 2 ครั้งคือเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2562 เวลาประมาณ 23.30 น. ได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในเขตท้องที่สภ.เมืองเชียงใหม่ และเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2562 เวลากลางคืน ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในเขตท้องที่สภ.เมืองเชียงใหม่ อีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวนสภ. เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ทรงวุฒิ ทับทอง/ นิมิตร โปทา