พ่อเมืองมุกดาหาร เปิดจวนนำหัวหน้าส่วนราชการเยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบ “โคก หนอง นา” สวนในจวน
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นำหัวหน้าส่วนราชการ ในนาม”ชมรมดอกช้างน้าวบาน “ และ สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดมุกดาหาร ศึกษาดูงาน โคก หนองนา สวนในจวน ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งนับเป็นต้นแบบในการเรียนรู้ “โคก หนอง นา ” ซึ่งได้ต่อยอดการพัฒนาพื้นที่และการบริหารจัดการน้ำ สู่การเป็น “ศูนย์เรียนรู้เพื่อความมั่นคงทางอาหาร”
ในช่วงเวลา ปีเศษ นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายกระทรวงมหาดไทยที่ในการน้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผ่านการเรียนรู้และปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา อารยเกษตร ซึ่งนำไปสู่การใช้ชีวิตแบบ “พึ่งพาตนเอง” เพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน รวมทั้งการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ช่วยสร้างความมั่นคงด้านอาหารอย่างยั่งยืน ทำให้เกิดความรักความสามัคคีของคนในชุมชน ต่อยอดไปสู่การนำไปขาย เป็นการสร้างรายได้ลดรายจ่าย เพื่อเป็นต้นแบบแนวทางขจัดความยากจน ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนได้มีขวัญกำลังใจในการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ยึดมั่นในแนวคิด “ผู้นำต้องทำก่อน” พร้อมทั้งยังทำให้หัวหน้าส่วนราชการ ได้ศึกษาเรียนรู้แนวคิดและผลสำเร็จ โคก หนอง นา ในจวน” เพื่อให้นำไปขยายผลในหน่วยงาน ภาคีเครือข่ายและพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ ให้ สามารถพึ่งพาตัวเอง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ริเริ่มมาจากการพัฒนาพื้นที่หลังจวน โดยเริ่มจากแปลงผักเล็ก ๆ ก่อนขยายมาเป็นแปลงนาสาธิต คันนาทองคำ โรงเพาะเห็ด การเพาะเลี้ยงไก่ไข่ เป็ด ห่าน และสัตว์น้ำ โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการบริการจัดการน้ำในพื้นที่มาทำเกษตรกรรมเกิดเป็นโครงการ “แล้งนี้ต้องมีน้ำ” ซึ่งเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยการนำน้ำจากแม่น้ำโขง ที่อยู่ระยะห่างออกไป 1 กิโลเมตร นำมาพักในบ่อพักน้ำในพื้นที่จวน จำนวน 2 บ่อ เพื่อใช้สู่การเกษตรเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ ในการทำเกษตรทำให้สามารถทำประโยชน์ได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูแล้ง เพื่อเป็นต้นแบบให้กับพี่น้องประชาชน และเกษตรกรที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง สามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ ซึ่งสามารถสูบน้ำได้วันละ 200,000 ลิตร รองรับการทำเกษตรในพื้นที่ได้ถึง 10 ไร่ สามารถทำการเกษตรได้เพียงพอตลอดทั้งปี เกษตรกรก็จะมีรายได้ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรชาวมุกดาหารได้อย่างยั่งยืน
นอกจากการดำเนินโครงการโคก หนอง นา ในจวนดังกล่าวแล้ว ยังได้สืบสาน โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยปลูกผักสวนครัวและพืชสมุนไพร ไม้ผลชนิดต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ทำให้มีผักปลอดสารพิษไว้บริโภคภายในครัวเรือน และยังต่อยอดพัฒนาโดยการนำส่วนที่เหลือจากการใช้บริโภคในครัวเรือนไปแบ่งปันให้กับชุมชนได้ ส่งเสริมการสร้างความรักความสามัคคี ปลูกจิตสำนึกและวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข.