บุรีรัมย์-เมียเผยนาทีสามีกู้ภัยหมดลมหายใจต่อหน้าลูกไม่มีโอกาสสั่งเสียในวันเกิดเมียภรรยากู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์จุดอำเภอ บ้านกรวด บุรีรัมย์ ที่เสียชีวิตปริศนาหลังไปช่วยเหลือน้ำท่วมที่อุบลฯเผยนาทีที่สามีหมดลมหายใจ โดยไม่มีโอกาสสั่งเสียเมียและลูก สิ้นใจในวันเกิดของภรรยา ยอมรับเร็วเกินไปกว่าครอบครัวจะรับได้ทั้งที่เป็นคนแข็งแรงวันที่่ 15 ก.ย.62 กรณี โลกโซเชียลมีการแชร์ภาพของ นายดำรงศักดิ์ เจียดประโคน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างหนัก ที่จ.อุบลราชธานี จนล้มป่วยและเสียชีวิตลงในวันเกิดของภรรยา จนมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนายดำรงศักดิ์ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 43/3 ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของนายดำรงศักดิ์ เจียดประโคน อายุ 34 ปี หรือ สท.โต้ง มีชาวบ้านและเพื่อนกู้ภัยเดินทางมาร่วมงานไม่ขาดสายน.ส.รัตนาวดี ถิ่นนคร อายุ 30 ปี ภรรยา สท.โต้ง กล่าวว่า หลังทราบข่าวน้ำท่วมที่ จ.อุบลฯ สามีซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.บ้านกรวด ได้มีการเตรียมการที่จะไปช่วยเหลือ โดยวันเดินทางไปช่วยเหลือ มีรถกู้ภัยไปด้วยกันกว่า 10 คัน ตนเดินทางไปด้วยกับสามี ตั้งแต่เช้าจนขนถุงยังชีพลงช่วยเหลือจนถึง 4 โมงเย็น ขากลับเอารถกลับ 4 คัน ระหว่างขับรถเดินทางกลับสามีตนบ่นว่าตัวร้อนและปวดหัวและเริ่มขับรถเซไปมา ที่ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ตนจึงอาสาขับกลับบ้าน โดยให้สามีนอนหลังรถ ซึ่งสามีนอนหลับมาตลอดทาง จนมาถึงบ้านที่ อ.บ้านกรวด จนถึงเวลา 04.00 น. สามีก็อาการไม่ดีขึ้น
วันรุ่งขึ้นได้ไปหาหมอที่คลินิก เอายามากินที่บ้าน อาการก็ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ อาการก็ทรุดลงอีก ถึงขั้นเข้าห้อง ไอซียู ในวันสุดท้ายสามียังบอกว่าสู้ๆ ก่อนจะช็อกเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว รวมเวลาที่ป่วย 5 วัน
น.ส.รัตนาวดี เล่าด้วยว่า การเสียชีวิตของสามีถือว่าเร็วเกินกว่าครอบครัวจะตั้งตัวทัน ไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะสั่งเสียลูกเมีย ทั้งที่ไม่ใช่การเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะในงานวันเกิดของตนคือวันที่ 13 ก.ย. สามีสัญญาว่าจะจัดงานวันเกิดให้ แต่ก็มาเสียชีวิตในวันเกิดของตน โดยแพทย์ระบุการเสียชีวิตว่าปอดติดเชื้อแบคทีเรียอย่างรุนแรงด้านนางสุทธิรัตน์ เจียดประโคน อายุ 59 ปี แม่ สท.โต้ง กล่าวว่า ลูกชายมีจิตอาสาตั้งแต่เด็ก พอวัยรุ่นก็เอารถยนต์ในครอบครัว ไปช่วยเหลือสังคมตลอด จนกระทั่งโตขึ้น ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมกับมูลนิธิสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ และแต่งงานมีลูก ก็ยังคงเป็นคนเดิมคือช่วยเหลือสังคมโดยตลอด และเอาลูกเมียเข้าร่วมด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่ารวดเร็วเกินไปเพราะลูกชายอายุยังน้อย ///////////////
ข่าว-ภาพ วันชัย ผิวอร่าม : วาทิตย์ แสนธุปี บุรีรัมย์