‘หม่อมเต่า’ห่วงใยแรงงาน เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตขณะซ่อมบ่อบำบัดน้ำเสีย จ.สงขลา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ห่วงใยแรงงาน กำชับหน่วยงานสังกัดในพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ประสบเหตุกรณีขาดอากาศหายใจขณะลงไปซ่อมบ่อบำบัดน้ำเสียในโรงงานผลิตน้ำยาง จ.สงขลา ตามสิทธิประโยชน์ที่กฎหมายกำหนด เผยหากลูกจ้างขึ้นทะเบียนประกันสังคมจะได้รับความคุ้มครองตามสิทธิประโยชน์ที่กฎหมายกำหนด
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2562 หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยแรงงานที่ประสบเหตุเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจขณะลงไปซ่อมแซมบ่อบำบัดน้ำเสียภายในโรงงานผลิตน้ำยางข้นที่จังหวัดสงขลา เป็นเหตุให้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย และอาการสาหัสจำนวน 1 ราย ขณะนี้ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดย รมว.แรงงาน ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่จังหวัดสงขลา เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือครอบครัวของลูกจ้างที่เสียชีวิตและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบว่า สถานที่เกิดเหตุเป็นที่ตั้งของบริษัท ทัทวิน จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 574/1 ม.5 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ประกอบกิจการผลิตน้ำยางข้น มีลูกจ้าง 290 คน ได้ว่าจ้างบริษัท สิ่งแวดล้อมภาคใต้ จำกัด เพื่อปรับปรุงบ่อบำบัดน้ำเสีย ในวันเกิดเหตุ (13 ส.ค.62) เวลาประมาณ 13.00 น.นายสานิต ไม่ทราบนามสกุล วิศวกรเป็นเจ้าของบริษัทได้นำลูกจ้างเข้าซ่อมแซมบ่อบำบัดน้ำเสีย ขนาดลึก 1.5 เมตร กว้าง 1.5 เมตร ซึ่งขณะทำการซ่อมแซมจนงานแล้วเสร็จพบว่ามีจุดที่ต้องแก้ไข จึงได้สั่งให้ลูกจ้าง จำนวน 2 คน
(ไม่ทราบชื่อ) ลงไปแก้ไข จนทั้งสองเป็นลมหมดสติ ติดต่อไม่ได้ นายสานิตฯ จึงได้ลงไปในบ่อพร้อมกับลูกจ้างอีก 1 คน จนทั้งสองได้หมดสติด้วย ลูกจ้างผู้เห็นเหตุการณ์ได้กลิ่นแก๊สไข่เน่า จึงได้ตามพนักงานเพื่อให้ช่วยนำทั้ง 4 คนออกมาจากบ่อฯ จากนั้นจึงได้เรียกรถฉุกเฉินนำส่งโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ 1 คน และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์หาดใหญ่ 2 คน และพบว่าทั้ง 3 คนได้เสียชีวิตลงแล้ว ส่วนนายสานิต ได้นำส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ ขณะนี้อยู่ในห้องไอซียู
ส่วนการช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ประสบอันตรายจากการทำงานที่กำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ในขณะนี้นั้น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่จังหวัดสงขลากำลังตรวจสอบความเป็นผู้ประกันตนของลูกจ้างที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย และอีกรายที่ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยา โดยหากเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมญาติจะได้รับเงินค่าทำศพรายละ 33,000 บาท ค่าทดแทนเสียชีวิตร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือนเป็นระยะเวลา 10 ปี และค่ารักษาพยาบาลและค่าทดแทนของลูกจ้างที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกด้วย