14 เมษายน 2567 นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวถึงสถานการณ์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เม.ย. ว่า จังหวัดร้อยเอ็ด โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สั่งการไปยังนายอำเภอทุกอำเภอ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ ใช้กลไกศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการตามกรอบแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 อย่างเข้มข้น โดยเน้นมาตรการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเชิงรุกในพื้นที่ เพื่อสร้างความปลอดภัยในการสัญจรให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ให้ความสำคัญในการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางช่วงก่อนและหลังเทศกาล เพื่อให้การเดินทางถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในวันที่สาม ของช่วงควบคุมเข้มข้น (13 เมษายน 2567) มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 7 ครั้ง บาดเจ็บ 6 ราย เสียชีวิต 3 ราย โดยข้อมูลสะสม 3 วัน เกิดอุบัติเหตุ 15 ครั้ง บาดเจ็บ 14 ราย เสียชีวิต 8 ราย โดยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ตัดหน้ากระชั้นชิด ขับรถเร็ว และดื่มแล้วขับ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ เป็นรถจักรยานยนต์ คิดเป็นร้อยละ 68 เหตุเกิดในพื้นที่ 9 อำเภอ คือ อ.หนองพอก 4 ครั้ง อำเภอธวัชบุรี 3 ครั้ง อำเภอเสลภูมิ 2 ครั้ง อำเภอโพนทอง เกษตรวิสัย เมืองร้อยเอ็ด เชียงขวัญ อาจสามารถและทุ่งเขาหลวง อำเภอละ 1 ครั้ง
ทั้งนี้ จากสถิติข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 สะสม 3 วัน พบว่า อุบัติเหตุส่วนใหญ่ยังเป็นรถจักรยานยนต์ ส่วนสาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยง เป็นการตัดหน้ากระชั้นชิด ขับรถเร็ว และดื่มแล้วขับ ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ช่วงอายุระหว่าง 15-29 ปี เป็นกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นคนในพื้นที่ โดยเฉพาะในห้วงนี้ ประชาชนเดินทางถึงภูมิลำเนา มีการสังสรรค์ในกลุ่มครอบครัวและกลุ่มเพื่อน โดยมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากนั้นจะออกมาเล่นสาดน้ำสงกรานต์ ในช่วงบ่ายถึงค่ำ โดยเฉพาะช่วงเวลา 18.00-21.00 น. มีการนำพาชนะใส่น้ำขึ้นนั่งท้ายรถกระบะ หรือขับขี่จักรยานยนต์ตระเวนเล่นน้ำตามพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว
จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการกวดขันวินัยจราจร และบังคับใช้ พ.ร.บ.จราจร เข้มข้น เพื่อลดปริมาณการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ ศปถ. ที่ได้เน้นย้ำให้จังหวัดปรับมาตรการและวางแผนจัดตั้งจุดตรวจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เน้นดูแลถนนสายรองและเส้นทางโดยรอบพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ เพิ่มความเข้มข้นการปฏิบัติงานด่านชุมชน จุดตรวจ และจุดสกัดบนเส้นทางสายรอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และรถกระบะบรรทุกเล่นน้ำเป็นพิเศษ พร้อมทั้งเข้มงวดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุและการเล่นน้ำที่ไม่ปลอดภัย
ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการและกำชับให้ฝ่ายปกครองใช้กลไกท้องที่ คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติของ ด่านชุมชน ในการเฝ้าระวัง ตรวจตรา ป้องปราม และดำเนินการลงพื้นที่ในเชิงรุก คือ หมั่นเข้าไปตรวจตรา ตักเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อเน้นย้ำเรื่องของการเมาไม่ขับ การสวมหมวกนิรภัยก่อนใช้รถใช้ถนน การขับขี่รถด้วยความระวัดระวัง และกำชับให้ใช้ “ด่านครอบครัว” โดยให้บุคคล ในครอบครัว แสดงความห่วงใยคนในครอบครัว ว่ากล่าวตักเตือน โน้มน้าว และควบคุมไม่ให้คนในบ้าน ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มสุรา ไม่สวมหมวกกันน็อค ไม่มีใบขับขี่ เป็นต้น ไม่ให้ออกไปใช้รถใช้ถนน เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงจากเกิดอุบัติเหตุทางถนน
สมนึก บุญศรี รายงาน