ทำได้ทุกอย่างถ้าร่วมมือกัน …..กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับ จิตอาสาจังหวัดเชียงราย ระดมกำลังพล อากาศยาน ชุดเผชิญเหตุดับไฟ เข้าดับไฟดอยจระเข้..คลี่คลาย ยังคงเฝ้าระวังต่อ….
ตามที่ได้เกิดไฟป่าลุกไหม้พร้อมกันหลายจุด ในบริเวณอุทยานอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก(ดอยจระเข้) หมู่ที่ 5,12 ตำบลแม่จัน และหมู่ที่ 5,6,7,8,12 ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย โดยไฟป่าไหม้ลุกลามพร้อมกันหลายจุดขยายตัวอย่างรวดเร็ว ต่อมา นางวันดี ราชชมภู นายอำเภอแม่จัน ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าเผชิญเหตุดับไฟ ระดมประชาชนจิตอาสา หน่วยเสือไฟ ตลอดทั้งผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน่าที่ ตลอดทั้งประชาชน ประมาณ 1,900 คน เข้าสมทบกันดับไฟ แต่ยังไม่สามารถจำกัดการขยายวงไฟได้มากนัก ตลอดคืนวันที่ 14 เมษายน 2562 เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันหารือและแบ่งมอบหน้าที่เพื่อให้สามาาถระงับไฟป่าไม่ให้ลุกลามถึงบ้านเรือนประชาชน โดยล่าสุดสามารถควบคุมการขยายการเผาไหม้ โดยการทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลาม แต่พื้นที่เกิดไฟไหม้ยังไม่สามารถดับได้ โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย โดยนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด สั่งให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดเชียงรายขึ้นที่วัดป่าตึง หมู่ที่ 7 ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย และได้มอบหมายให้ ว่าที่ ร้อยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ มีการระดมกำลังพลทั้งฝ่ายทหารจากองทัพภาคที่ 3 ตำรวจ พลเรือน จิตอาสา ฝ่ายปกครอง ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งมาสนธิกำลัง พร้อมยานพาหนะและอุปกรณ์มาสมทบในการดับไฟป่า รวมทั้งอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ ฮท 212 ของหน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารม้าที่ 2 และ ฮท.17(mi 17) จากกรมการบิน ศูนย์การบินทหารบกมาเตรียมพร้อมในการทิ้งน้ำบริเวณที่สูงชัน หน้าผา และจุดที่กำลังคนเดินเท้าเข้าถึงในเวลาอันรวดเร็วไม่ได้ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานความห่วงใยต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ อีกทั้ง พระราชทานโรงครัวพระราชทานในการสนับสนุนการปฏิบัติจาก มณฑลทหารบกที่ 37 เพื่อให้เจ้าหน้าที่และประชาชนจิตอาสาได้มีช่วงพัก และรับประทานอาหารบำรุงร่างกาย ก่อนสลับผลัดเปลี่ยนกันปฏิบัติงานในสนามยังจุดที่เข้าดับไฟป่าได้อย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ได้จัดชุดเผชิญเหตุดับไฟ ชุดจัดทำแนวกันไฟ และแบ่งพื้นที่รับผิดชอบในแต่ละหน่วยที่จัดชุดปฏิบัติการ ซึ่งเปิดรับบริจาคสิ่งของจำเป็นสำหรับสนับสนุนการปฏิบัติการจากผู้มีจิตสาธารณะและประชาชนทั่วไปอีกด้วย
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้คลี่คลายและสามารถควบคุมไฟในพื้นที่ราบและบนที่สูงชันได้แล้ว ยังคงเหลือแต่ดอยจระเข้ 2 จุด คือบริเวณด้านส่วนหัว 1 จุด ด้านกลางดอย 1 จุด โดยมีการวางแผนที่จะเข้าดับไฟช่วงบ่าย โดยจะใช้ ฮท.17 (MI-17)เข้าสนับสนุนการทิ้งน้ำดับไฟป่า ส่วนกำลังพลร่วมทุกฝ่ายจำนวน 800 คนจะสนธิกำลังจัดทำแนวกันไฟบริเวณทางหัวจระเข้ด้านกิ่วทัพยั้ง พร้อมเคลื่อนรถดับไฟป่า จำนวน 2 คัน พร้อมเครื่องเป่า จำนวน 2 ชุด เข้าสนับสนุนจุดเกิดไฟป่าและจุดเสี่ยงเกิดไฟป่า เพื่อมิให้ไฟป่าลุกลาม ซึ่งมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่และประชาชนจิตอาสาจะสามารถควบคุมไฟป่าครั้งนี้ได้สงบเรียบร้อย พร้อมกับจัดชุดเฝ้าระวังป้องกันพื้นที่ เพื่อมิให้ผู้ใดเข้าไปจุดไฟซ้ำได้อีก