กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวิพากษ์ร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ. … ให้กับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการวิพากษ์ร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ. …..ครั้งที่2 โดย มีคุณนงภรณ์ รุ่งเพ็ชรวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน และอดีตรองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ คุณกิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้ง และผู้ช่วยศาสตราจารย์ กิตติ ชยางคกุล คณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ร่วมบรรยาย ในการประชุมในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้รับมอบหมายตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 ให้เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบในการขับเคลื่อนแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งรวมถึงแผนสิทธิมนุษยชนของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ/อัตลักษณ์ทางเพศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม คุ้มครอง ให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ/อัตลักษณ์ทางเพศได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม เท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติ และสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี ทั้งนี้ที่ผ่านมา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้หารือร่วมกับภาคส่วนต่างๆอย่างต่อเนื่อง
และร่วมกันจัดทำร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต โดยสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฯ คือการให้บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือบุคคลที่มีวิถีทางเพศ หรือการแสดงออกทางเพศ ที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิด สามารถจดทะเบียนคู่ชีวิตได้เสมือนคู่ชีวิตหญิงชายทั่วไป รวมถึงกำหนดสิทธิ หน้าที่และความรับผิดชอบระหว่างกัน ในการนี้ เพื่อให้การจัดทำร่างพระราชบัญญัติฯ เป็นไปอย่างครบถ้วน สมบูรณ์ สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และเป็นไปตามกระบวนการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจึงได้จัด การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวิพากษ์ร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ. ….ขึ้นทั่วประเทศ โดยในวันนี้ได้จัด ในพื้นที่ภาคกลาง โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน สื่อมวลชน สถาบันการศึกษา ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจโรงแรม โรงพยาบาล การท่องเที่ยวและกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ฯ จำนวนกว่า 100 คน เข้าร่วมพิจารณาและสะท้อนข้อคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติฯอย่างอิสระ สำหรับกระบวนการต่อจากนี้ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะทั้งหมดมาประมวล และเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีภายในเดือน พฤศจิกายน 2561 นี้ต่อไป
ภาพข่าว///สุนทร สอนแสนสุข///ผู้สื่อข่าวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
