ผบช.ภ.5 แถลงข่าว จับแก็งซามูไรโหด ดาบซามูไรสั้น ฟันเด็กกับวัยรุ่น บาดเจ็บสาหัส 2 ราย
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวจับกุมกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกาย ในพื้นที่ อ.สารภีตำรวจภูธรภาค 5 สืบจากเมื่อวันที่ 11 ส.ค.67 เวลาประมาณ 03.55 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถ.สารภี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายบริเวณถนนหน้า หจก.บ้านอบอุ่นใจ ม.1 ต.ชมภู อ.สารภี จวเชียงใหม่ โดยถูกอาวุธมีดพันได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คน คือ นายวัชระพล โนทะวงศ์ อายุ 20 ปี ที่อยู่ 119 ม.9 ต.ดงมะคะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่รักษาตัด และด.ช.กิตติศักดิ์ กันอินทร์ อายุ 14 ปี ที่อยู่ 44 ม.9 ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.ชียงราย ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาอาการสาหัสต้องได้รับการผ่าตัด ส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหมรักษาตัว
พล.ต ท กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช ภ 5 ได้เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เร่งออกสืบสวนติดตามหาผู้ก่อเหตุจนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุดังกล่าว เป็นการก่อเหตุของแก๊งเยาวราช ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของกลุ่มวัยรุ่นใน อ.เมืองลำพูน ซึ่งได้นัดหมายกับแก๊งดอยหล่อ ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของกลุ่มวัยรุ่นใน อ.ดอยหล่อ
สืบสวนจากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีตำหนิรูปพรรณตรง กับกลุ่มของนายวัชรพันธ์ หรือบาส ซึ่งเป็นแกนนำของแก็งเยาวราช เคยมีประวัติการก่ออาชญากรรมมาก่อน จึงได้ติดตามตัวนายวัชรพันธ์ฯ จนพบพร้อมของกลางที่ได้ใช้ก่อเหตุ นายวัชรพันธ์ๆได้ให้การว่าได้นัดหมายกับกลุ่มของนายชาญณรงค์ จาก อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ บริเวณถนนเชียงใหม่-ลำปาง โดยได้เตรียมอาวุธมีด และระเบิดปิงปองที่ทำขึ้นเอง เพื่อออกไปทำร้ายร่างกายกลุ่มของคู่อริ (แกงหางดง HANGDONG) ที่บริเวณถนนเรียบทางรถไฟ
ต่อมากลุ่มของนายวัชรพันธ์ๆ และกลุ่มของนายชาญณรงค์ฯ ได้รวมตัวกันอยู่บริเวณแยกสารภีได้เห็นนายวัชระพลฯ และด.ช.กิตติศักดิ์ๆ ผู้เสียหาย ขับรถจักรยานยนต์ผ่านกลุ่มของตนไป จึงได้เข้าใจว่าเป็นกลุ่มคู่อริจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ตามไปจนกระทั่งถึงบริเวณถนนหน้า หจก.บ้านอบอุ่นใจ ม.1 ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงได้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกได้ร่วมกันทำร้ายนายวัชระพลฯ และกลุ่มที่ 2 ได้ร่วมกันทำร้าย ด.ช.กิตติศักดิ์ฯ โดยได้ใช้อาวุธมีด และระเบิดปิงปองที่พกพามาด้วยจนทำให้นายวัชระพลฯ และด.ช.กิตติศักดิ์ฯ ได้รับบาดเจ็บ ก่อนหลบหนีไป
จากการสืบสวนขยายผลสามารถนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้ว 8 คน คือนายวัชรพันธ์ หรือบาส (ขอปิดนามสกุล) อายุ 21 ปี ที่อยู่ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน, นายภานุวัฒน์ หรือนน (ขอปิดนามสกุล) อายุ 19 ปี ที่อยู่ต.เวียงยอง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน, นายพุฒิพงษ์ (ขอปิดนามสกุล) อายุ 18 ปี 11 เดือน ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.ลำพูน, นายคำออง (ขอปิดนามสกุล) อายุ 22 ปี ที่อยู่ ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่, นายกันตภณ (ขอปิดนามสกุล) อายุ 21 ปี ที่อยู่ ต.หางดง อ.หางดง จ.เชียงใหม่, นายรัษฎาธร (ขอปิดนามสกุล) อายุ 16 ปี ที่อยู่ ต.เมืองแหง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่, นายณัฐวุฒิ หรือบ่อ (ขอปิดนามสกุล) อายุ 20 ปี ที่อยู่ 48/2 ม.7 ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน และนายณัฐวิชญ์ (ขอปิดนามสกุล) อายุ 27 ปี ที่อยู่ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน
พร้อมตรวจยืดของกลาง เสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะก่อเหตุ จำนวน 7 รายการ, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นR15 สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กง 2049 ลำพูน (คันที่ก่อเหตุ), รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นPCX สีเทา ไม่ติดป้ายทะเบียน (คันที่ก่อเหตุ), อาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ 2 ด้าม
ผู้ต้องหาแต่ละรายถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกัน และสนับสนุน เป็นช่องโจร, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย และ อันตรายสาหัส โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย มีอัตราโทษจำคุกสูงสุดตั้งแต่ 15 ปี ถึง20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,210,288,294,295 และ371
ตำรวจภูธรภาค 5 ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้สอดส่องหากพบพฤติกรรมการรวมกลุ่มของวัยรุ่นสามารถแจ้งให้ทางตำรวจได้ตลอด
ซึ่งแก๊งที่ถูกจับได้ครั้งนี้ หัวหน้าแก๊งตัวใหญ่อ้วน ส่วนสมุนร่วมทีมตัวไม่อ้วน ใช้อาวุธมีด และดาบซามูไรสั้น กระหน่ำฟันผู้ได้รับบาดเจ็บ จนมีดดาบซามูไร ถึงกับหลุดหักจากด้าม มาตราการของตำรวจจะใช้วิธีบุกถึงบ้านตรวจค้นจับกุม พวกนี้เคยก่อเหตุมาแล้วแต่ก็ไม่หลาบจำ ต่อไปนี้ทางตำรวจรจะใช้มาตราการเด็ดขาดทางกฏหมาย “ข้อหาพยายามฆ่า, ยึดของกลาง ทั้งอาวุธ และยานพาหนะ ให้ตกเป็นของกลางของหลวงตลอดไป ไม่คืนและหากเป็นต่างด้าวก็จะขับออกนอกประเทศ กลุ่มแก๊งวัยรุ่นตอนนี้ทางเราได้ตรวรจเช็คและทำบัญชีไว้แล้ว มีทั้งหมด 20 แก็ง ถูกจับติดคุก, ค่ายเยาวชน ก็มาก หลบหนีสลายตัวก็เยอะ และก็ย้อนกลับมารวมตัวกันใหม่ก่อเหตุอีก ทางเจ้าหน้าที่อาจจะต้องใช้มาตราการที่เด็ดขาดโดยการใช้กฏหมายเพิ่มขึ้นกว่านี้พล.ต.ท.กฤตธาพล กล่าว.