14 กรกฎาคม 2567 นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงหลังจากทราบข่าวชาวนาไม่พอใจกรณีโครงการปุ๋ยคนละครึ่งของรัฐบาลว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่เกิดจากความสะท้อนของชาวนาผู้ปลูกข้าวผ่านสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย รวมทั้ง สส.ในสภาผู้แทนราษฎร ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้ปุ๋ยราคาแพง..เรียกร้องให้รัฐบาลหาทางแก้ไข ลดราคาปุ๋ย
รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ และสมาคมชาวนาและเกษตรไทย ตัวแทนเกษตรกรนาแปลงใหญ่ จึงได้ทำโครงการลดต้นทุนการผลิตเพิ่มปริมาณผลผลิต และเป็นการสนับสนุนนโยบายนโยบายรัฐบาล 4 ปีเกษตรกรจะต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า
จึงไดัเสนอโครงการรัฐบาลช่วยชำระค่าปุ๋ยแทนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวคนละครื่งไม่เกินไร่ละ 500 บาทจำนวนไม่เกินคนละ 20 ไร่หรือรัฐบาลสมทบให้ไม่เกิน 10,000บาท รัฐบาลอนุมัติเงินโครงการนี้ สองหมื่นเก้าพันเก้าร้อยสิบแปดล้านบสทเศษ ในฤดูกาลผลิตข้าว ปี 2567/2568 ตั้งแต่วันที่ 15 กค.67-31 พค.2568
เป็นโครงการสมัครใจไม่ได้บังคับเกษตรกรให้เข้าร่วมโครงการ แต่เกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องไปขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรก็ได้ขึ้นทะเบียนเพื่อรับการช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่แล้วเช่น ค่าเกี่ยวข้าวไร่ละ1,000บาท ค่าชดเชยภัยพิบัตรต่างๆ
ครั้งนี้เนื่องจากเป็นโครงการสมัครใจ และเป็นโครงการนำตลาดปุ๋ย ให้ผู้ผลิตปุ๋ยทบทวนราคาจำหน่าย ความจริงแล้วแต่ละปีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศใช้ปุ๋ยจำนวนมากกว่าที่รัฐบาลสนับสนุนเป็นจำนวนมากหลายเท่า เมื่อเกษตรกรขึ้นทะเบียนร่วมโครงการก็ให้ชาวนาชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นของ ธกส.ซึ่งเกษตรกรส่วนมากก็เป็นลูกค้า ธกส.การเข้าแอปพลิเคชั่น ธกส.จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินการให้
และเกษตรกรสามารถเลือกสูตรปุ๋ย ตรงกับที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดได้ถึง 16 สูตรปุ๋ยและมีปุ๋ยอินทรีย์ให้เลือกได้ด้วย หลังจ่ายเงินแล้ว 15 วันให้เกษตรกร ไปรับปุ๋ยที่สหกรณ์ตามที่เกษตรกรระบุ สาเหตุที่ต้องรอเวลา เพื่อให้โรงงานผลิดปุ๋ย ธกส.สหกรณ์ ดำเนินการส่งปุ๋ยตามสูตรที่เกษตรกรแจ้งลงทะเบียนไว้..
โครงการนี้ที่ไม่แจกเงินสดเพราะต้องช่วยลดต้นทุนการผลิตจากปุ๋ยราคาแพง เมื่อรัฐบาลซื้อจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง รัฐบาลสามารถต่อรองราคาโดยกำหนดราคาปุ๋ยสูตรเดียวกัน ต้องจำหน่ายราคาเดียวกันทั่วประเทศ ควบคุมคุณภาพปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการได้ ..เมื่อรัฐบาลประกาศโครงการนี้ออกไปได้รับเสียงสะท้อนจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาเรียกให้รัฐบาลยกเลิกเงินสมทบจากเกษตรกรไร่ละ 500 บาทเนื่องจากเกษตรกรไม่มีเงินสดสมทบค่าปุ๋ย..
รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้เจรจากับโรงงานผู้ผลิตปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการ ขอให้โรงงานผู้ผลิดปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการนี้รับเงินสดเฉพาะส่วนที่รัฐบาลต้องชำระแทนเกษตร ส่วนเงินสดที่เกษตรกรจะต้องสมทบ ขอชำระหลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโดยรัฐบาลหรือ ธกส.ค้ำประกัน โดยเกษตรกรสามารถรับปุ๋ยตามจำนวนสิทธิ์ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้โดยยังไม่ต้องจ่ายเงินสมทบ..
ส่วนที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเป็นกังวลรัฐบาลจะยกเลิกค่าเกี่ยวข้าวไร่ละ 1,000 บาทนั้นขอแจ้งให้เกษตรกรทราบว่า ณ.ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ประกาศยกเลิกแต่โครงการดังกล่าวแต่อย่างใด และขณะนี้จึงไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว รัฐบาลจะต้องประเมินผลผลิตหลังจากใส่ปุ๋ย ได้ปริมาณข้าวเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ราคาข้าวในขณะนั้น และเกษตรกร ได้รับผลกระทบ จากภัยพิบัตรน้ำท่วม ฝนแล้ง มากน้อยเพียงใด ..นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว
สมนึก บุญศรี รายงาน
