เมื่อเร็วๆนี้ ที่ ห้องประชุมชั้น 3 สนง.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจังหวัดร้อยเอ็ด นายอนุชา พึ่งบุญศรี ผู้อำนวยการ สนง.ป.ป.ช.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วย ดร.อุปกรณ์ ดีเสมอ ประธานเครือข่ายภาคประชาสังคมภาคอีสานจังหวัดร้อยเอ็ด ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ(MOU)ในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาเครือข่ายผู้นำชุมชนต้นแบบในการปกป้องสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน และการป้องกันปราบปรามการการทุจริตในจังหวัดร้อยเอ็ด ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยการดำเนินงานของ นายวีระ ศรีคำ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะ พร้อมด้วยกรรมการเครือข่ายป.ป.ช.ฯร้อยเอ็ด ได้แก่ นายยงพันธ์ พันธ์ดงยาง ดร.ธงชัย ธราวุธ ดร.โกวิท อ่อนประทุม นายประดิษฐ์ ศรีประสิทธิ์ นายสุดใจ สุทธิรันดร์ นายมงคล จันทรประทักษ์ นายวิทวัช บุญทา และนายสมนึก บุญศรี ด้วยงบประมาณ 524,700 บาท ในพื้นที่ จำนวน 20 อำเภอ
พร้อมกันนึ้ นายยงพันธ์ พันธ์ดงยาง รองประธานเครือข่ายภาคประชาสังคมภาคอีสาน จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เสนอปัญหาที่สาธารณประโยชน์หนองแล้งอำเภอโพนทรายร้อยเอ็ด ที่ไม่สามารถจัดการพื้นที่ให้ลงตัวได้มาหลายปีแล้ว โดยการร้องเรียนของ นายชัยรัตน์ เขตอนันต์ สมาชิกต้นแบบของเครือข่ายป.ป.ช.ฯร้อยเอ็ด ที่ดินหนองแล้งมีพื้นที่ 1,302 ไร่กว่า ทางกรมที่ดินได้ให้ธนารักษ์เป็นผู้ดูแลจำนวน 726ไร่กว่า เป็นถนน126ไร่กว่า และ450ไร่ มอบให้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นผู้จัดหาผลประโยชน์ โดยให้เทศบาลตำบลโพนทรายเป็นผู้ดูแล และพบว่ามีที่ดินที่ให้ผู้เช่าทับซ้อนกัน โดยประชาชนไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์อย่างเท่าเทียมได้มีผู้แสวงหาผลประโยชน์ในการเข้าใช้ที่ดินพื้นที่ดังกล่าวถึงแม้จะมีการร้องเรียนผ่านกอ.รมน.จังหวัด หลายหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ไม่มีการแก้ไขให้เป็นปัจจุบันได้ จึงขอให้หน่วยงานปปช.ร้อยเอ็ดเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นให้ด้วย
ดร.อุปกรณ์ ดีเสมอ ประธานเครือข่ายภาคประชาสังคมภาคอีสานจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า เรื่องนี้เคยเกี่ยวข้องขณะที่ทำหน้าที่ของอบจ.ร้อยเอ็ดเมื่อปี 2535 ที่ดินถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือที่ตั้งของรัฐ และที่เหลือให้อบจ.ดูแลผลประโยชน์ ต่อมามีปัญหา มีการบุกรุกเข้าไปใช้ผลประโยชน์ ธนารักษ์แสดงความเป็นเจ้าของปล่อยให้เอกชนเข้าใช้ผลประโยชน์ ประชาชนที่จับจองไม่มีสิทธิในที่ดิน หรือ เข้าไปใช้ผลประโยชน์ไม่ได้ ลักษณะเอื้อประโยชน์ต่อนายทุน จะเห็นว่าซับซ้อนที่ไม่ง่ายที่จะเข้าไปแก้ปัญหาได้ จึงขอความกรุณาจากท่าน ผอ.ป.ป.ช.ร้อยเอ็ด เข้าไปดูแลให้สมประโยชน์ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนด้วย
นายวิทวัช บุญทา กรรมการเครือข่ายปปชฯร้อยเอ็ดกล่าวสนับสนุนว่า ตามที่คณะกรรมการฯได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของสมาชิกต้นแบบฯในปัญหาการจัดการที่สาธารณประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรมต่อประชาชนในพื้นที่ เห็นควรที่ป.ป.ช.ร้อยเอ็ดเข้ามาเป็นเจ้าภาพเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเพราะที่ผ่านมาหลายปีไม่มีหน่วยงานเข้าแก้ไขปัญหานี้ได้ยังมีการเข้าไปบุกรุกและแสวงหาผลประโยชน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายอนุชา พึ่งบุญศรี ผู้อำนวยการ สนง.ป.ป.ช.ร้อยเอ็ด ได้ตกลงป.ป.ช.ร้อยเอ็ดรับเป็นเจ้าภาพในการเข้าไปประสานเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยให้ผู้ที่เดือดร้อนมีผลได้ผลเสียนายชัยรัตน์ เขตอนันต์ มาพบเพื่อขอข้อมูลรายละเอียดในการเข้าช่วยเหลือดำเนินการในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยในที่ประชุมเห็นชอบบันทึกเพื่อเป็นข้อสรุปในการแก้ปัญหาที่สาธารณประโยชน์หนองแล้งอำเภอโพนทรายดังกล่าว
สมนึก บุญศรี รายงาน