13 พฤษภาคม 67 ตำรวจ สภ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลมพายุหมุน พัดต้นไม้โค่นทับเพลิงพัก แล้วไปทับเด็กหญิง 3 ขวบ จนเสียชีวิต ข้างบ้านเลขที่ 69 หมู่ 4 ต.หนองกลางดง อ.ทัพทัน จ,อุทัยธานี หลังจากได้รับแจ้ง จึงวิทยุแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ กู้ภัยอุทัยธานี จุดหนองฉาง เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง ไปยังที่เกิดเหตุ โดยมีนายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.เขต 1 จ.อุทัยธานี รุดไปที่บ้านหลังดังกล่าวร่วมช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุ ที่เพลิงพักข้างบ้าน ซึ่งเป็นสถานที่นั่งพักผ่อน ในช่วงร้อน พบต้นไม้ประดู่ ขนาดใหญ่ ได้โค่นลงมาทับ ทำให้หลังคาทรุด ลงมาทับเด็กหญิง อายุ 3 ขวบ เสียชีวิตติดกับโต๊ะนั่งกิน เจ้าหน้าที่ ได้ระดมช่วยโดยใช้เลื่อยเครื่อง เครื่องมือตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา อย่างเร่งด่วน โดยใช้เวลา 10 นาที จึงนำร่างออกมาได้
พบชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมายืนมุ่งดูกันเป็นจำนวนมาก พบนางสาว อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นยายของเด็ก 3 ขวบ ยืนร่ำไห้รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเมื่อช่วงเย็นประมาณ 3 โมงเย็น ตนเองได้ไปรับหลานสาว จากโรงเรียนพอมาถึงบ้าน ตนเองก็พาหลานไปนั่งกินผัดหมี่ ที่พักข้างบ้าน ในระหว่างนั้น ได้เกิดมีลมพายุ พัดกระหน่ำมาทางบ้านอย่างรุนแรง ในระหว่างนั้นลมพายุได้พัดเอาต้นประดู่ ขนาดใหญ่โค่นลงมาทับหลังคา ทำให้หลังคาทรุดตัวลงทับตนเองด้วว จนได้รับบาดเจ็บที่แขน และได้ทับหลานสาวติดกับพื้นโต๊ะ จนเสียชีวิตดังกล่าว
ด้านครูปราณี สิทธิเขตกรณ์ ซึ่งเป็นครู ประจำชั้น กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นยายได้มารับ หลานที่โรงเรียน หลังจากนั้นก็พากันกลับบ้าน ได้สักพัก ก็ได้เกิดลมพายุหมุน พัดเอาบ้านพังหลายหลัง หลังจากนั้นตนเองได้มาทราบข่าวจากเพื่อน ครู ว่าได้มีลมพายุ พัดต้นไม้ทับเพลิงพักข้างบ้านของเด็ก จนเสียชีวิต ซึ่งวันนี้เป็นงานวันเกิดของเด็กด้วย
ซึ่งวันนี้ช่วงเย็น ได้มีลมพายุโหมกระกระนำ จนทำให้บ้านในเขต ต.หนองสระ ต.หนองกลางดง เสียหายหลายหลังจนทำให้หลังคาบ้านพังเสียหายหลายสิบหลัง ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ อบต.ได้ลงพื้นที่ออกสำรวจ และช่วยเหลือประชาชน
สำเนา ทองศรี รายงาน
