ชาวบ้านแห่จับ จักจั่น เปิดเมนูเด็ด 2 ปีหรือ 3ปีมีครั้งของชอบนทท.มาเลย์
ยะลา –ชาวบ้านใน อ.เบตง จ.ยะลา แห่จับแมลง”จักจั่น”ลงกินน้ำที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปีหรือ 3 ปี สร้างรายได้เสริมยุคข้าวยากหมากแพง เผยเมนูเด็ด”จักจั่น”ทอดกรอบหยอด ซอสแม็กกี้ ใบมะกรูด และโรยพริกไทย ของชอบนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน อ.เบตง จ.ยะลา ต่างนำไฟฉายส่องสว่าง ถุงพลาสติก ขวดน้ำเปล่า แห่ออกมาจับ”จักจั่น”ที่เกาะตามเสาไฟฟ้าและพุ่มไม้ที่มีแสงไฟในยามค่ำคืน ซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมในช่วงราคายางตกต่ำและสินค้าแพง ซึ่ง 2 ปีหรือ 3ปี จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ “จักจั่น” ออกมาจากป่าให้ชาวบ้านได้จับ โดยปัจจุบัน”จักจั่น” จะมีน้อยกว่าในปัจจุบันหากย้อนหลังไป 5 – 6 ปีที่ยังคงมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์และชาวบ้านยังมีการปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันชาวบ้านในอ.เบตงกลับโค่นต้นยางหันมาปลูกผลไม้ต่างๆที่มีราคา ทำให้ “จักจั่น”มีน้อยมากกว่า 5 – 6 ปีที่ผ่านมา
ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ก่อนที่ฤดูร้อนจะมามาถึง จะเป็นช่วงที่จะพบ”จักจั่น”มากที่สุด โดย”จักจั่น”จะคลานต้วมเตี้ยม ขึ้นมาเหนือพื้นดินและไต่ขึ้นไปเกาะอยู่ตามกิ่งต้นไม้ต่างๆ ก่อนลอกคราบกลายเป็น”จักจั่น”อย่างสมบูรณ์โดยจะเกาะอยู่ตามต้นไม้ และกินน้ำเลี้ยงของต้นไม้เป็นอาหาร ช่วงที่โตเต็มวัยจะมีระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ซึ่งจะได้ยินเสียงร้องของจักจั่นดังระงมไปทั่วริมถนนเข้าเมืองเบตง
โดยชาวบ้านจะใช้แสงไฟนีออนสีม่วงมาล่อจักจั่นให้มาเล่นไฟ และเลือกจับเฉพาะจั๊กจั่นที่มีตัวสีดำ ท้องสีส้ม ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีเนื้อมีความมัน กว่าจั๊กจั่นสายพันธุ์อื่นๆ โดยทำการจับตัวที่บินตกมาตามจุดต่างๆ จับด้วยมือเปล่า และขายจักจั่นตัวเป็นๆ ตัวละ 4-5 บาท และชาวบ้านจะนำไปโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก หรือส่งขายตามร้านอาหารต่างๆ ทั้งในพื้นที่ เพราะของชอบนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และคนต่างพื้นที่ โดยนักท่องเที่ยวที่เดินเที่ยวเมื่อพบก็จะขอซื้อจักจั่น ทันทีโดยจะเหมาในราคาตัวละ 5-6 บาท
ส่วนตัวจักจั่น ที่ผ่านการทอดกรอบมาแล้วก็จะคิดตัวละ 5 บาท ซึ่งในแต่ละคืนสามารถจับ”จักจั่น”สร้างรายได้ประมาณ 2,000 -2,500 บาทต่อคืนเลยทีเดียว ซึ่งหากเป็นคืนที่มีอากาศเย็นพอดี จักจั่นจะออกมาเป็นจำนวนมากในช่วงหัวค่ำ
สำหรับ “จักจั่น” สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น ทอด คั่ว หมก ยำ แกง และนำมาทำเมี่ยง กินกับข้าว และกับแกล้ม และยังจัดเป็นอาหารยา นอกจากตัวจักจั่นแล้ว คราบนอกของ จักจั่น ยังมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการรักษาโรค เมื่อจักจั่นโตเต็มวัย มันจะลอกคราบชั้นนอก คราบจักจั่น หรือ หนังจักจั่น ส่วนผสมหลักในคราบจักจั่นคือ โปรตีน และไคติน ซึ่งเป็นยาแผนโบราณของจีนซึ่งใช้สำหรับ แก้หวัด ขับปัสสาวะ ฯลฯ ได้ผลดีมากและเป็นยาชั้นดีอีกด้วย
ส่วนขั้นตอนการนำไปปรุงอาหาร ก่อนอื่นต้องเด็ดปีกออกแล้วนำไปล้างน้ำสะอาด ประมาณ 2 -3 รอบ แล้วนำไปทำเมนู”จักจั่น”ได้ตามความชอบ แต่ที่เมนูชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเบตงชื่นชอบมากที่สุด คือ “จักจั่น” ทอดกรอบหยอดซอสแม็กกี้ โรยพริกไทยและใบมะกรูด ถือเป็นเมนูเด็ดหาทานยาก เนื่องจากจะมีในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ที่เดียวเท่านั้น
ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา โทร.064-126-5593