วันที่ (13 มกราคม 2567) เวลา 15.00 น. พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เข้าเยี่ยมกำลังพลที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สังกัด กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 จำนวน 2 ราย คือ สิบตำรวจตรี ธนกฤษ ใจห้าว ปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้บังคับหมู่ หมวดเฉพาะกิจตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 4412 พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์ จังหวัดยะลา และ สิบตำรวจโทร วัชระ มะยะเฉียว ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ หมวดเฉพาะกิจตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 4412 พักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งกำลังพลทั้งสองนายบาดเจ็ดจากถูกยิง ปัจจุบันอาการ ปลอดภัย อยู่ระหว่างการบำบัดฟื้นฟู โดยมีทีมแพทย์ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้สอบถามอาการ มอบกระเช้าเยี่ยมผู้ป่วย และมอบเงินช่วยเหลือบำรุงขวัญเบื้องต้นให้แก่กำลังพล และครอบครัว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
โดยแม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ สอบถามอาการ ตลอดจนกล่าวให้กำลังใจกำลังพล และครอบครัว ขอให้กลับมาดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขต่อไปตามปกติโดยเร็วพร้อมกำชับหน่วยงานดูแล และเร่งดำเนินการรเรื่องสิทธิเงินช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการให้เร็วที่สุด
จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ร้อยตำรวจโท สถาพร สุจิณโณ อายุ 56 ปี หัวหน้าชุดเฝ้าตรวจ 4411 สังกัด กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ณ วัดสามกอง ตำบลเกาะแต้ว อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ซึ่งเสียชีวิตจากกรณีคนร้าย ใช้อาวุธปืนซุ่มยิงขณะเดินทางกลับจากการประชุม ที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ตำบลบุดี อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อเดินทางกลับมายังฐานปฏิบัติการในพี้นที่จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 11 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีผู้บังคับบัญชา กำลังพลเพื่อนตำรวจ ครอบครัว ญาติ และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม เพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อวีรชนผู้กล้า
โอกาสนี้ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้นำความเสียใจจากผู้บัญชา มายังครอบครัวของ ร้อยตำรวจโท สถาพร สุจิณโณ ที่ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเท เสียสละจนวาระสุดท้ายของชีวิต เพื่อประเทศชาติและความสงบสุขของประชาชน พร้อมสั่งการให้หน่วย เร่งดำเนินการด้านสิทธิแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้ได้รับอย่างครบถ้วน ถูกต้อง และรวดเร็วที่สุด เพราะถือเป็นการสูญเสียกำลังพลที่มีค่า ที่เสียสละ ทุ่มเทแรงกายแรงใจปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงเพื่อความสงบสุขของประชาชน ซึ่งจะได้รับสิทธิตามระเบียบของทางราชการ
อย่างไรก็ตามกองอำนวยผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอยกย่องสดุดีความกล้าหาญของกำลังพลที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจช่วยเหลือผู้อื่นอย่างกล้าหาญ แม้ไม่ได้เสียชีพด้วยการปฏิบัติภารกิจสู้รบ แต่เสียสละชีพเพื่อต่อลมหายใจช่วยเหลือประชาชนให้รอดชีวิตอย่างปลอดภัย