ข่าวประชาสัมพันธ์

กาฬสินธุ์ น้ำท่วม 7 อำเภอเริ่มคลี่คลาย นาทีทองเขื่อนลำปาวกักเก็บน้ำเต็มที่

ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอกุฉินารายณ์ พร้อมตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยล่าสุดสถานการณ์น้ำท่วม 7 อำเภอเริ่มคลี่คลาย ขณะที่ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ระบุช่วงฝนตกส่งผลดีน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาวมากว่า 300 ล้าน ลบ.ม.เฉลี่ยวันละ 30-50 ล้าน ลบ.ม.พร้อมเดินหน้ากักเก็บเต็มที่สำรองไว้ใช้ช่วงหน้าแล้ง

วันที่ 11 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายว่า จากภาวะฝนตกหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ อ.เขาวง อ.นาคู และ อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาภูพาน ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากลงมา เอ่อเข้าท่วมหลายพื้นที่เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์ภาพรวมล่าสุดขณะนี้เริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว

ล่าสุดมีรายงานว่า ที่บ้านคำโพนทอง ต.สามขา อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ สาขากุฉินารายณ์ ป้องกัน จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามและประเมินสถานการณ์อุทกภัย พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในช่วงเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่ผ่านมา เนื่องจากสาเหตุฝนตกหนักในพื้นที่ เกิดผลกระทบทั้งสิ้น 7 อำเภอ 31 ตำบล 241 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ 45 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 16,000 ไร่
โดยในปัจจุบันปริมาณน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ซึ่งจุดที่ลงพื้นที่เป็นบริเวณพื้นของตำบลสามขา อำเภอกุฉินารายณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำเป็นปลายทางของมวลน้ำที่จะไหลลงสู่ลำน้ำยัง และไหลลงไปยังพื้นที่รับน้ำ จ.ร้อยเอ็ด รวมถึงได้หารือร่วมกับนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหาร อปท.ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อตรวจสอบความเสียหาย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2566 เป็นต้นมา ระดับน้ำท่วมขังในพื้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้เตรียมพร้อมวางแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยหลังน้ำลด โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อฟื้นฟู และบรรเทาผลกระทบให้ทุกพื้นที่ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย และประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์การช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ตามระเบียบที่กำหนดต่อไป พร้อมทั้งขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านรวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย

ขณะที่นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำลำปาวอย่างใกล้ชิด ระบุว่า จากสถานการณ์ฝนตกในหลายพื้นที่เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำไหลเติมเข้าเขื่อนลำปาวในช่วง 4-5 วันมากกว่า 300 ล้าน ลบ.ม. เฉลี่ยวันละ 30-50 ล้าน ลบ.ม. ทำให้เขื่อนลำปาวปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,631.56 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 82.40 ของความจุ

ล่าสุดน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ 38.90 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งทางเขื่อนจะกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งอย่างเต็มประสิทธิภาพและให้ได้มากที่สุด พร้อมกับส่งน้ำช่วยเกษตรท้ายน้ำเฉลี่ยวันละ 3.56 ล้าน ลบ.ม.อย่างไรยืนยันแม้ปริมาณน้ำจะไหลเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อน และสามารถกักเก็บน้ำได้อย่างสบาย เพราะได้มีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงทุกวัน