12 มีนาคม 68 กลุ่มมวลชน ในนามสมาพันธ์คนไร้ที่ดินทำกินสุราษฎร์ธานี ประมาณ 12 กลุ่ม รวมตัวกันชุมนุมด้วยความสงบ บริเวณด้านหน้าเสาธงศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานีหลังเก่า พร้อมกับ ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มอบหมายให้ นายณัฐพร รักบำรุง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมกับ ตัวแทนผู้ชุมนุม ซึ่งนำโดยดร.มาโนช เพ็ชรชู ประธานสมาพันธ์คนไร้ที่ดินทำกินสุราษฎร์ธานี นายวรพจน์ ทองนพคุณ รองประธานฯ พร้อมด้วย นายจิตพงษ์ อภิรักษ์พงไพร ผู้ประสานเครือข่ายที่ดินทำกินจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตัวแทนกลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่ง เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศ เพื่อหารือความคืบหน้าหลังจากสมาพันธ์ฯ ได้ยื่นเรื่องมายังจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
สำหรับกรณีการเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาที่ดินสวนปาล์มน้ำมันบริษัทเอกชน ที่สิ้นสุดการอนุญาตรวมถึงแปลงที่มีการบุกรุก ได้มีความพยายามในการแก้ปัญหามาอย่างยาวนานหลายสิบปี โดยการรวมกลุ่มเป็นสมาพันธ์ และเข้ายื่นข้อเรียกร้องในครั้งนี้ มีแปลงที่ดิน 15 รายการ จำนวน 16 แปลง เนื้อที่รวมปัจจุบัน กว่า 46,400 ไร่ ใน 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอชัยบุรี พระแสง เคียนซา บ้านนาสารและอำเภอกาญจนดิษฐ์ ซึ่งมีทั้งที่ดินราชพัสดุที่หมดสัมปทาน พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และที่ดิน สปก. โดยปัจจุบันที่ดินเกือบทั้งหมดยังมีผู้ประกอบการเข้าเก็บเกี่ยวผลอาสิน ทั้งแบบที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายและจ่ายค่าเช่า รวมถึง แบบที่ไม่ได้รับอนุญาต และไม่ได้ส่งมอบให้ราษฎรจนแล้วเสร็จ ทั้งนี้แต่ละแปลงมีปัญหาอุปสรรคและความคืบหน้าการดำเนินการแตกต่างกัน
โดยแปลงที่ดินที่มีความคืบหน้าใกล้เข้าสู่กระบวนการจัดสรรรายชื่อประชาชนลงแปลงที่ดินมากที่สุด จะเป็นแปลงที่ตำบลอรัญคามวารี ตำบลเคียนซา ตำบลบ้านเสด็จ อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเช่าโดยบริษัทประจักษ์วิวัฒน์ จำกัด และหมดสัญญาไปแล้ว เนื้อที่ปัจจุบัน 8,588 ไร่ โดย คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เห็นชอบให้แบ่งครึ่งแล้วนำมาจัดสรรเป็นแปลง แปลงละ 5 ไร่สำหรับทำกิน และ อยู่อาศัยแปลงละ 100 ตารางวา จำนวน 675 แปลง พร้อมกำหนดสัดส่วนเป็นราษฎรในพื้นที่ร้อยละ 40 และในจังหวัด ร้อยละ 60 ซึ่งปัจจุบันมีรายชื่อราษฎรที่มีการรวมกลุ่มและผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการแล้ว แต่มีบางส่วนที่ยังไม่เรียบร้อย จำนวน 60 – 100 ราย ที่ประชุมจึงมีมติให้ แจ้งราษฎรที่ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อ ได้มายืนยันตัวตนภายในเวลาที่กำหนด หากเลยเวลาจะถือว่าสละสิทธิ์ ส่วนแปลงอื่นๆ ก็ได้มีการหารือ จนได้แนวทางขั้นต้นแล้ว
อย่างไรก็ตามหลังจากประชุมเสร็จแกนนำได้นำผลการประชุมไปแจ้งให้กับมวลชนทราบ แต่บางส่วนยังไม่พอใจกับคำตอบ จึงได้รวมตัวกันขึ้นไปบริเวณชั้นสองของศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนจะมีการส่งตัวแทนเข้าหารือกับนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสุคนธ์ หนูภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ห้องปฏิบัติงาน และได้รับข้อเสนอเพิ่มเติมจากตัวแทน คือให้คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดการประชุมโดยเร็ว เพื่อจัดทำแผนการดำเนินงานจัดสรรที่ดินทำกินของแต่ละแปลง เพื่อส่งให้สมาพันธ์ฯ นำไปชี้แจงให้กับสมาชิก พร้อมทั้ง เปิดโอกาสให้ตัวแทนของสมาพันธ์เข้าร่วมกระบวนการต่างๆ ของ คทช. โดยเฉพาะในการลงพื้นที่ของหน่วยงานเจ้าภาพ เช่น สปก. ธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานี และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ก่อนจะออกมาชี้แจงให้กับผู้เข้าร่วมชุมนุม และเป็นที่พอใจ จึงได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ
สุพจน์ คำจันทร์ รายงาน