12 มกราคม 68 นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านพอด ตำบลชลคราม อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามผลกระทบและความเสียหายจากภาวะคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง และน้ำทะเลหนุนสูง โดยมี นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเลอพงศ์ สวนสังข์ นายอำเภอดอนสัก ปลัดอำเภอ ผู้นำท้องที่-ท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่
โดยได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่รับลมมรสุมเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ สำหรับปีนี้คลื่นลมค่อนข้างแรงกว่าทุกปีและมีน้ำทะเลหนุนทำให้บ้านเรือนและร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนกันคลื่นได้รับความเสียหายบางส่วน และมีน้ำทะเลล้นข้ามถนนเข้าบ้านเรือนประชาชนก่อนจะลดระดับลงในเวลาต่อมา ทางอำเภอดอนสัก ได้จัดเตรียมพื้นที่อพยพไว้ที่วัดนทีวัฒนาราม กรณีที่สถานการณ์รุนแรงขึ้น โดยนายธีรุตม์ ได้เดินเยี่ยมพบปะประชาชนตามบ้านเรือนตลอดแนวชายฝั่ง พร้อมกับ มอบถุงยังชีพให้กับผู้ได้รับผลกระทบ และได้ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบ และขอรับจัดสรรงบประมาณ
จากนั้นได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าเรือซีทรานส์เฟอร์รี่ และ ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ เพื่อติดตามมาตรการความปลอดภัยการเดินเรือ ซึ่งพบว่าท่าเรือทั้ง 2 แห่ง มีประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มารอขึ้นเรือเป็นจำนวนมาก เนื่องจากใกล้ถึง การจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่เกาะพะงัน และ ด้านนอกมีรถมาต่อคิวรอลงเรือเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ที่ลงเรือได้ล่าช้าเนื่องจากคลื่นลมและน้ำทะเลหนุนบริเวณ โดยได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการเดินเรือ ทั้ง 2 ราย ติดตามสภาพอากาศและคลื่นลมอย่างใกล้ชิดใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ และตรวจสอบอุปกรณ์ฉุกเฉิน เสื้อชูชีพให้เพียงพอกับจำนวนผู้โดยสาร
ส่วนเรือขนาดเล็ก ที่มีความยาวน้อยกว่า 12 เมตรและเรือหางยาง ขณะนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประกาศงดออกจากฝั่งไปจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568 และสั่งการให้นายอำเภอ ตลอดจนสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี ตรวจตราอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการฝ่าฝืนเดินเรือ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนและนักท่องเที่ยว
