ข่าวรอบรั้วภูธร ข่าวสมุทรปราการ ข่าวเด่น

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นำตุ๊กตาหมูเด้งวางบนสายพานรับกระเป๋า มอบเป็นของขวัญสุดพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์

12 เมษายน 2568  ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) พร้อมด้วย นางฉฎาณิศา ชำนาญเวช รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคลและอำนวยการ AOT และ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ผู้บริหาร AOT ร่วมให้การต้อนรับผู้โดยสาร แจกตุ๊กตาหมูเด้ง AOT เป็นของที่ระลึก โดยลำเลียงตามสายพานรับกระเป๋าให้กับผู้โดยสารที่เดินทางมากับสายการบินลุฟต์ฮันซ่า เที่ยวบิน LH 772 จากเมืองมิวนิค สหพันธรัฐเยอรมนี รวมถึงยังได้มีการจัดขบวนแห่กลองยาว หุ่นละครเล็ก เดินแจกตุ๊กตาหมูเด้ง AOT ให้กับผู้โดยสารบริเวณโถงสายพานรับกระเป๋าเที่ยวบินระหว่างประเทศด้วย สร้างรอยยิ้มและความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวสงกรานต์ในประเทศเราเป็นอย่างมาก


ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย AOT ตั้งใจส่งมอบความสุขให้กับผู้ใช้บริการทุกท่าน โดยให้ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งในสังกัดของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ร่วมกันตกแต่งสถานที่สร้างบรรยากาศและสีสันให้เข้ากับช่วงการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สะท้อนบรรยากาศความสนุกสนาน สดใส และอบอวลด้วยกลิ่นอายของศิลปะและวัฒนธรรมไทย รวมทั้งจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และในปีนี้ AOT ได้จัดทำของขวัญสุดพิเศษเป็น “ตุ๊กตาหมูเด้ง AOT” สวมเสื้อลายดอกวันสงกรานต์สุดน่ารัก จำนวนทั้งสิ้น 2,800 ตัว เพื่อแจกให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานของ AOT ทุกท่าอากาศยาน เพื่อสร้างความประทับใจและภาพลักษณ์ที่ดีต่อ AOT โดยสาเหตุที่เลือกตุ๊กตาหมูเด้ง เนื่องจาก “น้องหมูเด้ง” เป็นฮิปโปแคระที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกถือเป็น Soft Power ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ดึงดูดให้คนเข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากยิ่งขึ้นช่วยสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นด้านการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สร้างรายได้และเม็ดเงินอย่างมหาศาลและมีส่วนทำให้ผู้ใช้บริการในความดูแลของ AOT ปรับจำนวนเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ดร.กีรติ กล่าวต่อไปว่า AOT ได้มีการประมาณการตัวเลขผู้โดยสารและเที่ยวบินในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 ของ ทสภ. ซึ่งเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ สูงถึง 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 2.05 แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 260,000 คน ระหว่างประเทศ 1,030,000 คน หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 184,000 คนต่อวัน มีเที่ยวบินประมาณ 7,400 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 7.09 โดยแบ่งเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ จำนวน 1,830 เที่ยวบิน เที่ยวบินระหว่างประเทศจำนวน 5,550 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 1,060 เที่ยวบิน (ข้อมูล ณ วันที่ 10 เมษายน 2568)


ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดภาพผู้โดยสารหนาแน่นภายในอาคารผู้โดยสาร ได้กำชับให้ ทสภ. วางแผนบริหารจัดการท่าอากาศยาน ตลอดจนบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานราชการ สายการบินและผู้ประกอบการที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านการให้บริการ ให้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากรและอุปกรณ์การให้บริการให้เพียงพอในช่วงชั่วโมงคับคั่ง (Peak Hour) เพื่อให้ทุกกระบวนการเกิดความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทสภ. ได้จัดตั้งศูนย์ Operations Command Center (OCC) เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าและขาออกไม่ให้เกิดความแออัด ตลอดจนดูแลด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้พร้อมใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาให้บริการผู้โดยสาร อาทิ ระบบเช็กอินอัตโนมัติ (CUSS) และเครื่องโหลดสัมภาระอัตโนมัติ (CUBD) ระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System : Biometric) ระบบAutomated Border Control (ABC) ฯลฯ เพื่อให้ผู้โดยสารผ่านกระบวนการขั้นตอนต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทสภ. ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ Airport Ambassador ไว้คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำการใช้บริการตามจุดต่างๆ ในส่วนของด้านการรักษาความปลอดภัย ทสภ.ได้เพิ่มความถี่และเข้มงวดตรวจตราภายในอาคารผู้โดยสาร รวมถึงเน้นย้ำเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานในท่าอากาศยานให้ดูแลและใส่ใจการให้บริการผู้โดยสารให้ครบทุกด้าน สำหรับด้านระบบการขนส่งสาธารณะ ได้มีการประสานกับผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ อาทิ รถแท็กซี่ รถลีมูซีน รถโดยสาร Grab เตรียมความพร้อมของรถให้พอเพียงกับผู้ใช้บริการ โดยในส่วนของรถแท็กซี่สาธารณะ มีให้บริการ ทั้งรถขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ รวมถึง รถแท็กซี่ EV รวมแล้วกว่า 7,600 คัน อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้า Airport Rail Link รถโดยสารสาธารณะที่ให้บริการเชื่อมต่อกับจุดหมายปลายทางทั้งในเมืองและเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการให้บริการ