ช่วงเย็น 11 เมษายน 2567 นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานเปิดงาน “ขะน๋นหม้อห้อม สืบสานภูมิปัญญาวิถีไทยพวน สู่การท่องเที่ยวชุมชน ตำบลทุ่งโฮ้ง ประจำปี 2567” ณ ศูนย์แสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนโอท็อป อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ โดยมีการสรงน้ำพระบริเวณหน้าพิธีเปิดงาน และมีการแสดงของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง ชุดดนตรี”เสียงพิณคนกะเหลอ ” ชุดรำวงวันสงกรานต์ ฟ้อนของกลุ่มสตรี และกิจกรรมออกกำลังกายวิถีไทยไลน์แดนซ์ ต้อนรับ ต่อจากนั้น นายวชิรพงศ์ โกสิน นายกเทศมนตรี กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานว่าเพื่อส่งเสริมการจำหน่ายผ้าหม้อห้อมและของดีจังหวัดแพร่แล้วหลังจากนั้นรองผู้ว่าฯจึงตีฆ้องสามครั้งและเยี่ยมชมบูธจำหน่ายสินค้าต่างๆในงาน
นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้กล่าวว่า ผ้าหม้อห้อมเป็นการนำเอาผ้าทั้งผืนไปย้อมกับน้ำห้อม ส่วนผ้าย้อมครามของสกลนคร ย้อมเส้นก่อนแล้วเอาเส้นไปทอผ้า เพราะฉะนั้นของสกลนครเขาค่อนข้างจะมีราคาสูง สินค้าเขาแพง แต่โอกาสเข้าตลาดช้ากว่าผ้าหม้อห้อมของเรา ที่ใส่อยู่นี่ตัวละ 800 บาท อย่างสวยเลย เพราะฉะนั้นสินค้าผ้าหม้อห้อมของเราจับต้องได้ มันทดลองใส่ได้ กระเป๋าใบละยี่สิบบาท ผลิตจากผ้าหม้อห้อมแท้มีติดกิ๊ฟ มีเชือกร้อยกลายเป็นสินค้าราคาถูกจับต้องได้ง่ายจึงมีโอกาสเข้าสู่ตลาดได้เร็วว่องไว มีประโยคที่ได้เตรียมมาบอกกับกลุ่มแม่บ้านทุกท่านในขั้นตอนของการใช้ชีวิตอยู่กับผ้าหม้อห้อม แม้จะมีความยั่งยืนยังไม่พอแล้วต้องก้าวกระโดดฝากไว้ตอนนี้ แน่นอนผ้าหม้อห้อมบ้านเรามีโอกาสในการก้าวกระโดด ส.ส.แพร่ทั้ง 4 คนจะเอาเสื้อหม้อห้อมไปใส่ในสภาผู้แทนราษฎรอยู่ตลอด พอเราพูดถึงผ้าหม้อห้อมแล้วมีจังหวัดแพร่จังหวัดเดียวจังหวัดอื่นไม่มี แต่พอมาพูดถึงผ้าไหมนั้นเยอะมาก ขอนแก่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสิน มีเต็มไปหมดแม้กระทั่งชัยภูมิก็ทำ แต่พอมาพูดถึงหม้อห้อมมีจังหวัดเดียวที่ทำคือจังหวัดแพร่
นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวอีกว่า ดังนั้นโอกาสในการก้าวกระโดดนี้ก็ขอให้ทุกฝ่ายทำให้มีโอกาสในการก้าวกระโดดกันด้วย เพราะราคาสินค้าของเราจับต้องได้ง่าย สามารถเผยแผ่ สามารถซื้อหาซื้อใส่กันได้ง่าย ก็ต้องขอบคุณเทศบาลตำบลทุ่งโฮ้ง ขอบคุณนายกเทศมนตรีตำบลทุ่งโฮ้ง เพราะพอจัดให้มีเวทีนี้ก็จะมีโอกาสที่จะขาย ก็จะมีคนมาดู การก้าวกระโดดหมายความว่าคนอื่นจะเข้ามาสนับสนุนมาซื้อผ้าหม้อห้อมของเรา ไม่ใช่เพียงแค่การประชาสัมพันธ์แต่เป็นการทำให้สินค้าของเราไปทำให้เขาสนใจ พอสินค้าของเราไปถึงเขาทำให้เขาสนใจเขาก็สนใจมาซื้อ ถ้าสินค้าเรายังรูปทรงอยู่อย่างนี้เช่นสินค้าของเราไม่เหมาะกับทางภาคใต้ เพราะฉะนั้นหม้อห้อมของเราทำอย่างไรให้คนภาคใต้สนใจจึงจะเป็นการก้าวกระโดด พอเรายั่งยืนขายดีขายได้มีคนมาซื้อนี่มันแค่ยั่งยืนแต่ถ้าก้าวกระโดดก็ต้องทำให้เป็นที่สนใจของคนทั่วประเทศ
ญาณัจฉรา โชติถนอมกิจ รายงาน
