starting เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร พิธีเปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2019 ในส่วนการฝึกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาสาธารณภัย
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 09.00 นาฬิกา พลโท ศิราวุฒิ วงศ์ขันตี เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 19 ในส่วนการฝึกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาสาธารณภัย (Humanitarian Assistance and Disaster Relief Exercise: HADR – X) ณ โรงแรมอมรินทร์ ลากูน จังหวัดพิษณุโลก และมีนาย Joseph Martin ผู้อำนวยการ Center for Excellence in Disaster Management & Humanitarian Assistance (CFE-DM) และ พลตรี จรัส ปัญญาดี เสนาธิการกองทัพภาคที่ ๓ ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้ด้วย
การฝึก HADR – X ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ การฝึกแก้ปัญหาบนโต๊ะ ระหว่างวันที่ 11 – 14 กุมภาพันธ์ 2562 ณ โรงแรมอมรินทร์ ลากูน จังหวัดพิษณุโลก และการฝึกภาคสนาม ระหว่างวันที่ 18 – 20 กุมภาพันธ์ 2562 ณ ศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีผู้เข้าร่วมการฝึกฯ จาก 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน และ อินเดีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความ พร้อมให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ในการรับมือและตอบโต้ภัยพิบัติ ได้ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับ นานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป นอกจากนี้ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพมิตรประเทศ และ ความร่วมมือระหว่างภาคทหารและพลเรือนอีกด้วย
สำหรับการฝึกการแก้ปัญหาบนโต๊ะด้านภัยพิบัติ ประกอบด้วย
(1) การบรรยายภาควิชาการ ในวันที่ 11 และ 13 กุมภาพันธ์ 2562 เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับภัยพิบัติ บทบาท และความรับผิดชอบของประเทศผู้ประสบภัยในการตอบโต้ภัยพิบัตินานาชาติ การทำความเข้าใจถึงการประสานงาน ระหว่างภาคทหารและพลเรือน รวมถึงการใช้ทรัพยากรทางทหารในการตอบโต้ภัยพิบัติ
(2) การฝึกการแก้ปัญหาบนโต๊ะ ในวันที่ 12 และ 14 กุมภาพันธ์ 2562 เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกสามารถวิเคราะห์ภัยพิบัติทางธรรมชาติได้อย่างรวดเร็ว และเตรียมคำแนะนำสำหรับการสนับสนุนทหารในการตอบโต้ภัยพิบัติ รวมทั้งสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความซับซ้อน การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากต่างประเทศในบริบทที่มีความขัดแย้ง
การฝึกการแก้ปัญหาบนโต๊ะฯ ครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมการฝึกฯ ประกอบด้วย ทหาร และผู้แทนภาคประชาสังคม จาก 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย 42 นาย, สหรัฐอเมริกา 15 นาย ,สิงคโปร์ 3 นาย, อินโดนีเซีย 2 นาย, มาเลเซีย 8 นาย, เกาหลีใต้ 1 นาย, ญี่ปุ่น 4 นาย ,จีน 6 นาย และ อินเดีย 9 นาย รวมทั้งองค์กรภาคประชาสังคมจากต่างประเทศ ๗ นาย รวมทั้งสิ้น 97 นาย