นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
พรรคไทรักธรรมเดือด 19 นี้ค้าน กกต.บัตรเลือกตั้งปลอดโลโก้และชื่อพรรคการเมือง
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. 61 ที่มัสยิดตือลาฆอมือดัน ม.11 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส
นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม นายสหรัฐ รัตนฐากูร รองหัวหน้าพรรค นางสุชาดา ขวัญสกุล รองเลขาธิการพรรค และคณะ ได้ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เป็นครั้งที่ 2 เพื่อเปิดรับสมาชิกพรรคสาขา เขต 1 โดยมีตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ของพรรคไทรักธรรม จำนวน 4 คน จาก 4 เขต ประกอบด้วย นายมะอูเซ็ง สาและ นายซาการียา มาตาดี นายนิสิต ดือราแม และนายสมภัทร ไชยชาญ ได้ถือโอกาสมาแนะนำตัวกับพี่น้องประชาชน ที่ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค จำนวนกว่า 200 คน เพื่อเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนไปทำหน้าที่ในสภา โดยมีเจ้าหน้าที่จาก กกต. จ.นราธิวาส ตำรวจและทหาร จำนวนหนึ่งคอยมาสังเกตการณ์ และให้การดำเนินการของพรรคไทรักธรรมในการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โดยนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณี หลายพรรคการเมืองได้ออกมาแสดงความคิดเห็น ไม่เห็นด้วยกับการตัดโลโก้และชื่อพรรคการเมือง ออกจากบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งพรรคไทรักธรรมถือว่าเป็นพรรคที่เสียเปรียบพรรคการเมืองใหญ่ ซึ่งในเรื่องนี้ตนไม่เห็นด้วยโดยในวันที่ 19 ที่จะถึงนี้ ทาง กกต.ได้เชิญทุกพรรคการเมืองหารือครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะออกกฏระเบียบเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง โดยทางพรรคไทรักธรรมก็จะยื่นหนังสือคัดค้าน คิดว่าต้องมีโลโก้และชื่อพรรคอยู่ในบัตรเลือกตั้งด้วย เพราะถ้าหากไม่มีตรงนี้แล้วจะทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความเข้าใจผิด แล้วก็ทำให้การเลือกตั้งเกิดความวุ่นวายขึ้น
นอกจากนี้นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ยังได้ตอบข้อซักถามถึงความวิตกกังวนเรื่องการหาเสียง ที่ทาง กกต.ได้กำหนดไว้ เช่น ห้ามไม่ให้มีรถแห่หาเสียง หรือ ห้ามปราศรัยเวทีใหญ่ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเลือกตั้งใหม่ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรในเรื่องดังกล่าวนี้ ส่วนนี้ไม่มีผลกระทบต่อพรรคและถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับพรรคไทรักธรรม เพราะพรรคไทรักธรรมไม่ใช่พรรคที่โด่งดัง ผู้สมัครก็ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลหรือมีชื่อเสียง เพราะถ้าการหาเสียงด้วยความเรียบง่าย ผมเชื่อว่าผู้สมัครในแต่ละเขตนั้น จะได้ใจและคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนมากกว่า เรื่องอึกถึกคึกโครมทางพรรคก็ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ก็ถือว่าผู้ร่างรัฐธรรมนูญร่างกฎหมายตัวนี้ให้พรรคการเมืองเท่าเทียมกันกับทุกพรรคการเมือง
