อุทัยธานี – ชาวบ้านพบโครงกระดูกในถ้ำพร้อมรอยวาดสีแดงคาดโบราณมาก ก่อนเจอมีคุณยายฝันแล้วลูกชายไปเจอซากโครงกระดูก
เมื่อเวลา 10.00.น.ของวันที่ 10 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับรายแจ้งจากชาวบ้านว่ามี ชาวบ้านรายหนึ่งขึ้นไปในป่าถ้ำบ้านเขาผาแรด หมู่ 13 บ้านสวนใหม่เขาผาแรด ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ไปพบโครงกระดูกมนุษย์ เป็นหัวกะโหลก มีกราม มีฟัน เศษไหแตก เศษหอยพร้อมกับในถ้ำมีภาพวาดเขียนเป็นสีแดง คล้ายวัตถุโบราณมาก
ล่าสุดไปสอบถามกับผู้ที่ไปพบเห็นคนแรกชื่อนายปิยะ ยิ้มเนียม อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 273 /1 ม.13 บ้านสวนใหม่เขาผาแรด ได้เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 7 ตนเองได้กลิ่นขี้ค้างคาวอยู่ภายในถ้ำ พอดีตนเองจะเอามาใส่ผลไม้ที่ปลูกไว้ จึงได้เดินตามกลิ่นไป จนกระทั่งเดินเข้าไปในป่าพร้อมกับมีหน้าผาขึ้นสูง จึงได้ปีนขึ้นไปในถ้ำ ไปพบภาพวาดสีแดงอยู่บริเวณปากทางเข้าถ้ำ หลังจากนั้นได้เดินเข้าไปภายในถ้ำ แล้วไปขุ้ยดินเพื่อหามูลค้างคาว จนกระทั่งขุ้ยเจอโครงกระดูก ตอนแรกคิดว่ากระดูกเลียงผา ต่อมาได้ขุ้ยต่อ ไปเจอหัวกะโหลกมนุษย์ จึงได้รีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกับได้สอบถามกับผู้ใหญ่บ้านชื่อนายประมวล ขริบเอม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เปิดเผยตนเองอยู่เป็นผู้ใหญ่บ้านมา ยังไม่มีใครมาแจ้งคนหาย พึ่งจะทราบจากชาวบ้านว่ามาแจ้งเจอโครงกระดูกมนุษย์พร้อมกับแจ้งฝ่ายปกครองอำเภอลานสักพร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องขึ้นไปบ่ายโมงวันนี้
ล่าสุดได้ไปสอบถามกับนางสัญญา สีนวล อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายปิยะ ยิ้มเนียม ซึ่งเป็นคนเจอกระดูกมนุษย์เป็นคนแรก ได้เล่าถึงเหตุการณ์ว่า ก่อนหน้านี้เมื่อไม่กี่วันตนเองฝันว่าถ้ำแห่งนี้เคลื่อนไหวสัานสะเทือนจะหล่นไม่หล่น พร้อมกลับมีแสงสว่างออกมาจากถ้ำและในความฝันนั้นมีพระสวดมนต์ให้ได้ยินอย่างไพเราะ จนกระทั่งลูกชายตนเองมาพบเจอ ซึ่งตนเองเชื่อว่าทางวิญญาณโครงกระดูกดังกล่าวอยากจะออกมาเปิดเผยอยากจะมาให้ชาวบ้านเห็นส่วนตัวแล้วคิดว่าคงอยากจะไปผุดไปเกิด
ส่วนทางด้านชาวบ้านชื่อนางน้ำค้าง วัสแสง อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 257 ม.13 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก ได้ขึ้นไปดู พร้อมชาวบ้านระแวกนั้น พากันปีนผาขึ้นไปชี้จุดให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับชี้โครงกระดูกมนุษย์ ภาพวาดเขียนสีแดง แต่ช่วงทางขึ้นผา ขึ้นค่อนข้างลำบาก ต้องใช้บันไดปีนขึ้นไป
ล่าสุดนายปริวรรญ เจียมจิตต์ ผู้ช่วยนักโบราณคดี กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 4 ลพบุรี พร้อมพิสูจน์หลักฐานอุทัยธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบโครงกระดูกมนุษย์ภายในถ้ำและฝาผนังที่เกิดจากการวาดภาพของคนในยุคเก่าโบราณ
เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบโครงกระดูก นั้นเกิดจากมนุษย์ที่เสียชีวิตไปนานมาก พร้อมกับภาพวาดสมัยโบราณเป็นวิถีชีวิตของคนรุ่นเก่า โดยบันทึกด้วยการวาดภาพในยุคอดีต คาดว่าเกิดพร้อมกันในยุคก่อนในอดีตในชีวิตของคน คาดว่าเกิดในยุค 3000-4000 ปีลงมา เนื่องจากในภาพวัดนั้น คาดว่าเกิดจากการบันทึกภาพเก็บของป่าล่าสัตว์ก่อนปวัติศาสต์ โดยบันทึกด้วยการวาดภาพลงในหิน หรืออาจเป็นพิธีกรรมของคนรุ่นเก่าก็ได้
ส่วนตอนนี้ ทางหน่วยงานได้เก็บข้อมูลเบื้องต้น พร้อมกับเก็บหลักฐานให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ตรวจทางวิทยาศาสต์อีกครั้ง พร้อมกับขอความร่วมมือ ขอให้หยุดขุดค้นภายในที่เกิดเหตุไว้ก่อน และห้ามแตะต้องภาพในถ้ำ พร้อมในพื้นที่ต้องกั้นพื้นที่ไว้ก่อน เนื่องจากต้องรอพิสูจน์ทางวิทยาศาสต์อย่างละเอียด พร้อมขอความร่วมมืองดในการขอโชคขอลาภ ส่วนต่อไปนี้ คาดว่าสถานที่แห่งนี้ ต้องเป็นสถานที่โบราณคดีโบราณแห่งใหม่แน่นอน
สำเนา ทองศรี รายงาน 0987817019