จับคาหนังคาเขา 6 ผู้ต้องหามอดไม้นายทุนไม้เหิมเกริม บุกตัดไม้ประดู่ป่า บนที่ดิน ส.ป.ก. ที่กาฬสินธุ์ เหี้ยน 38 ต้น อายุกว่า 80 ปี ตะลึงของกลางครบทั้งรถเครน รถบรรทุกไม้ เลื่อยโซ่ยนต์ท่อนไม้ประดู่ป่าถูกหัน 72 ท่อนใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 125 ซม. ด้านผวจ.กาฬสินธุ์ ลุยตรวจสั่งห้ามประกัน ตั้งธงสอบขยายผลเครือข่ายนายทุนตัดไม้พะยูง ด้านตำรวจแจ้งข้อหาหนักผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ดำเนินคดีอาญา
วันที่ 10 กันยายน 2566 ที่บริเวณพื้นที่ ส.ปก. หมู่ที่ 15 บ้านนาขาม ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายโรมรัก ภูหวล ป้องกัน จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานคัดไม้ประดู่ โดยมีนายอดิศร คงสมกัน หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้พิเศษกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.กุฉินารายณ์ ทหาร กอ.รมน.จ.กาฬสินธุ์ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ส.ปก. ชาวบ้าน ร่วมให้ข้อมูล
โดยจากการสอบพบ พบว่าพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ ส.ปก.จำนวน 44 ไร่ ซึ่งเคยเป็นป่าสงวนแห่งชาติก่อนที่จะเป็นป่าเสื่อมโทรมและ ส.ป.ก.พบต้นไม้ประดู่อายุ 60-80 ปีถูกตัดวางเป็นท่อนกองจำนวนมาก บางต้นมีเส้นผ่าถึง 125 ซม. โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึด ทั้งรถบรรทุก รถเครน และไม้ประดู่ รวม 72 ท่อน ที่พบว่ามีต้นไม้ประดู่ถูกตัดไปถึง 38 ต้น มูลค่าประเมิน 1,500,000 บาท
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับการตัดไม้ในพื้นที่ ส.ปก.เป็นกฎข้อห้ามครอบคุลม หากมีการตัดไม้ ทั้งไม้ประดู่ ไม้พะยูง หรือไม้หวงห้ามประเภทอื่นๆ โดยไม่ได้ขออนุญาต มีความผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้ หากมีการตัดไม้ประเภทอื่นๆ ที่อยู่ใกล้แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ ก็ต้องขออนุญาตด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย และเกี่ยวโยงขบวนค้าไม้ข้ามชาติ
“กรณีที่มีการตัดไม้ประดู่ ในที่ ส.ปก.ครั้งนี้ ถึงแม้จะเป็นในที่ ส.ปก. มีเอกสารสิทธิ์ผู้ได้รับอนุญาตใช้ประโยชน์ชัดเจน แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ทำประโยชน์ทำกิน ไม่ใช่ให้ตัดไม้หวงห้าม และไม่มีสิทธิ์ขายไม้ จึงจะมีการพิจารณาลงโทษตามกฎหมาย ทั้งทางยึดคืนพื้นที่และดำเนินคดี เนื่องจากกระทำผิดหลักเกณฑ์การพื้นที่ ส.ปก. และในส่วนผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คนนั้น ทางจังหวัดจะได้ประสาน พนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ เจ้าของคดี เพื่อคัดค้านการประกันตัว ในชั้นพนักงานสอบสวน รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐาน ทางโทรศัพท์ของผู้ต้องหากลุ่มนี้เพราะเชื่อว่าทำเป็นขบวนการและเชื่อมโยงขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ ทั้งไม้พะยูง และไม้ประดู่ด้วย อย่างไรก็ตาม จะได้ติดตามการทำสำนวนของพนักงานสอบสวนในเชิงลึกต่อไป” ผวจ.กล่าวฯ
สำหรับกรณีตัดไม้ประดู่ในพื้นที่ส.ปก.ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.40 น. ของวันที่ 9 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้แจ้งไปทางจังหวัด จึงได้เข้าตรวจสอบ โดยการนำของ ผู้อำนวยการสำนักจัดการ ทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 นายอำเภอกุฉินารายณ์ ผู้กำกับการ สภ.กุฉินารายณ์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกัน รักษาป่าและควบคุมไฟป่า ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้กาฬสินธุ์ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาฬสินธุ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.5 (บัวขาว) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ (ดงมูล) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.3 (ภูพาน) เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.2(ดงแม่เผด) ปลัดอำเภอกุฉินารายณ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ กอ.รมน.จ.กาฬสินธุ์
โดยได้ร่วมกัน ตรวจยึดรถเครน ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 43-0188 อุดรธานี จำนวน 2 คัน, รถเทรนเลอร์ หัวลาก ยี่ห้อฮีโน่ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 70-4145 หนองคาย พร้อมพ่วงหมายเลขทะเบียน 70-327/3 เลย จำนวน 1 คัน, รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-3550 หนองคาย จำนวน 1 คัน , เลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อสติล สีส้ม – ขาว พร้อมบาร์โซ่ ไม่มีหมายเลขเครื่อง จำนวน 1 เครื่อง, เลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อเทารัส สีดำ – แดง พร้อมบาร์โซ่ ไม่มีหมายเลขเครื่อง พร้อมไม้ประดู่ จำนวน 72 ท่อน ปริมาตร 44.323 ลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ ผู้ต้องหา 6 คน ประกอบด้วย 1.นายสุรวุฒิ หิตจำนงค์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115/1 หมู่ที่ 3 ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นผู้ขับรถเครน , 2.นายโก้เก๋ กลิ่นจันทร์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 4 ต.โนนหัน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เป็นผู้ขับรถเทรนเลอร์หัวลาก, 3.นายมนูญ เหมือดอดทน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 11 ต.ทุ่งฝน อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี เป็นผู้ขับรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ, 4.นายเครื่อง หัตจำนงค์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115/1 หมู่ที่ 3 ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นเจ้าของ เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 2 เครื่อง, 5.นายจิต จันทรนา อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 421 หมู่ที่ 1 ต.บ้านเหลี่ยม อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นผู้รับซื้อไม้ประดู่, 6.นายประยูร สุขปัญญา อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211/1 หมู่ที่ 2 ต.นาขาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเจ้าของที่ดินที่อ้างว่ามีเอกสารการใช้ประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 ในที่ดินแปลงดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ได้แจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 6 คน ในข้อหา “กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 ฐานร่วมกันทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต, มาตรา 69 ฐานร่วมกันมีไม้ท่อนหวงห้ามอันมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มาตรา 70 ฐานร่วมกันรับไว้ด้วยประการใด ซ้อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่มีผู้ได้มาโดยการการกระทำผิด พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 และมาตรา 4 ฐานมีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สำหรับท่อนไม้ประดู่และของกลาง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึด จะนำไปเก็บรักษาที่หน่วยป้องกันและรักษาป่า กส.5 (บัวขาว) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ขอขอบคุณเครือข่ายป้องกันรักษาป่าไม้ที่แจ้งเบาะแสการตัดไม้อย่างต่อเนื่อง