รายงานพิเศษ จังหวัดลำพูน-ถนนที่ขึ้นชื่อว่าอันตราย รอคนมาตายอีกมากมาย หากไม่ใส่ใจการขับขี่
ถนนจากตัวเมืองลำพูนยาวถึงตัวอำเภอลี้ ของจังหวัดลำพูน เคยได้ชื่อว่าเป็นถนนที่อันตรายติดอันดับถนนอันตรายจนได้ชื่อว่า ถนนผีสิง เพราะช่วงหนึ่งที่วิ่งผ่านอำเภอป่าซาง ไปจนถึงอำเภอบ้านโฮ่ง ถนนสายนี้มีระยะทางความยาว 25 กิโลเมตร แต่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุดของจังหวัด ทีมสื่อมวนชนได้ทำการลงพื้นที่ “การพัฒนาระบบเพื่อลดการบาดเจ็บและตายจากอุบัติเหตุทางถนน” ได้ลงพื้นที่และการแก้ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุและการตายจึงลดลงอย่างมองเห็นได้ชัดและเป็นรูปธรรม
ตามที่เคยมีการนำเรื่องราวนี้มาวิเคราะห์เรื่องของเหตุการณ์นี้ อุบัติเหตุหมู่ รถบรรทุกเสียหลักชนเก๋ง กับกระบะพังยับ จนท.กู้ภัยต้องนำเครื่องตัดถ่างเข้าช่วยคนเจ็บ บนถนนสายลำพูน-ลี้ อุบัติเหตุครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.วันที่ 18 ม.ค.62 ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยพุทธางนครลำพูน และสมาคมกู้ชีพกู้ภัย ลำพูน ได้รีบแจ้งเหตุรถชนกันบนท้องถนนหลายคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ บนถนนสายลำพูน-ลี้ ท้องที่บ้านแม่อาว ม.3 ต.นครเจดีย์ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
หลังจากทราบเรื่อง จึงรุดนำกำลังพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง และอุปกรณ์กู้ชีพเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ พร้อมกับได้แจ้งไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เกี่ยว ข้องเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยเมื่อทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ไปถึงยังบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่ามีรถติดเป็นทางยาว ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งแก้ไขการจราจร เพื่อให้รถวิ่งผ่านไปได้และป้องกันเหตุซ้ำ ขณะเดียวกันพบรถบรรทุกพ่วงสภาพพลิกคว่ำตกลงไปข้างทาง ขณะเดียวกันพบรถเก๋งสีแดง และรถกระบะสีบรอนเทา สภาพถูกชนพังเสียหายยับเยินทั้ง 2 คัน นอกจากนี้ยังทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในตัวรถ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องเร่งใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง เข้าดำเนินการช่วยเหลือจนกระทั่งสามารถนำตัวผู้บาดเจ็บออกมาได้ พร้อมทั้งนำส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมาขณะเดียวกันจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าว ได้วิ่งมาด้วยความเร็วบนถนนสายดังกล่าว จนกระทั่งมาถึงยังบริเวณที่เกิดเหตุ จู่ๆ รถได้เกิดเสียหลักทำให้ไปพุ่งชนกับรถเก๋งและรถกระบะ ก่อนจะไถลพุ่งตกลงไปริมทาง เป็นเห็นให้รถทั้งหมดพังเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตามรายละเอียดของเหตุการณ์ที่แน่ชัด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการเชิญตัวคนขับ พร้อมพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากข้อมูลในภาพสาเหตุการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดลำพูนมีปัจจัย 3 เสี่ยงที่เป็นสาเหตุ พฤติกรรมเสี่ยงคน 65.23% รถเสี่ยง และถนนเสี่ยง มนุษย์ปัจจัยคือสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอันดับแรก คือ 1. การใช้ความเร็วสูงในการขับขี่ยวดยาน เนื่องจากถนนสาย เป็นถนนที่เป็นทางตรง จึงทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วสูงเกินกฎหมายกำหนด จากการเก็บสถิติถนนเส้นนี้มีผู้ขับรถเร็ว 61.19 เปอร์เซ็นต์ 2. ความไม่พร้อมของผู้ขับขี่ คนในพื้นที่ที่ใช้เส้นทางนี้มีพฤติกรรมในการชีวิตที่สุ่มเสี่ยง เช่น การรับจ้างดำนาเมื่อเสร็จภารกิจแล้วช่วงเย็นๆ คนว่าจ้างจะต้องมีการจ่ายค่าแรงพร้อมกับมีการให้เหล้าโดยอ้างเพื่อให้ไปกินแก้เมื่อย และการทำความเร็วเพื่อนำสิ่งของส่งให้ทันเวลา ทั้งนี้ผู้ขับขี่รถกลับบ้านในตอนมืดค่ำ ทัศนียภาพการมองไม่ค่อยเห็นจนทำให้เกิดชนท้ายรถบรรทุกขึ้น จากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์มีผู้ดื่มแล้วขับ 32.26 เปอร์เซ็นต์ 3. การไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร คนในพื้นที่ไม่สนใจป้ายเตือน ป้ายห้าม มีการขี่รถย้อนศรและตัดทางผ่านตามจุดต่างๆเพียงเพราะจุดยูเทิร์นอยู่ไกลจากชุมชุนทำให้ชาวบ้านตัดสินใจทำทางลัดผ่าน ความคึกคะนองของเด็กวัยรุ่น การไม่สวมหมวกนิรภัยคิดเป็น 61.19 เปอร์เซ็นต์ การขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด 16.15 3%
สำหรับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในเรื่องการใช้ความเร็วสูงในเส็นทางนี้ ได้มีการตั้งด่านสกัดที่เป็นด่านหลักและด่านชุมชน และมีการติดตั้งต้องกล้องจับความเร็ว แต่มีปัญหาเพราะมีกล้องตรวจจับแค่ 2 ตัวทั้งอำเภอ ส่วนเรื่องการดื่มแล้วขับทางอำเภอจะใช้มาตรการด่านชุมชนสกัดไม่ให้ผู้ดื่มออกสู่ถนนหลัก หากตรวจเจอจะให้พักจนสร่างเมาถึงให้กลับ หรือหากเป็นคนในชุมชนจะให้ภรรยามารับสามีกลับ ไป และที่สำคัญคือ จะให้งานที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือหากจะดื่มจะต้องหลังตะวันตกดินไปแล้ว ทำให้ผู้นำชุมชนไม่กล้าจะจัดงานที่มีเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ส่วนการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรทางผู้เกี่ยวข้องได้มีมาตรการขอความร่วมมือจากผู้นำชุมชนทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้เตือนลูกบ้านเป็นด่านแรกไม่ให้ทำผิดกฎหมาย รถซิ่ง รถแต่งหากมีการจับครั้งแรกจะปรับตั้งแต่ 1,000 บาท หากมีครั้งที่สองจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 บาท และไม่มีการใช้เส้นสายมาขอไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือใครก็ตามจึงทำให้อุบัติเหตุด้านมนุษย์ปัจจัยลดลง
วิธีการไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายจังหวัดไหนก็ทำได้ เก็บข้อมูลสถิตรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆแล้วนำข้อมูลที่ได้มาแจงเป็นประเด็นย่อยๆ แล้วหาเจ้าภาพที่เกี่ยวข้องของแต่ละเรื่องนั้นๆ เช่น การชนท้าย รถบรรทุกลำไย การขับขี่เร็ว การเมาแล้วขับ โดยเน้นการทำงานในระดับชุมชนซึ่งใกล้ตัวคนที่สุดวันนี้การเกิดอุบัติเหตุและการตายจึงลดลงอย่างมองเห็นได้ ถนนสายไหนก็จะไม่เป็นถนนผีสิง โค้งอันตรายที่ไหนก็จะไม่เป็นโค้งร้อยศพหากทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาและเปิดเผยข้อมูลที่เป็นจริงเพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุด ที่สำคัญคือตัวเราทุกคนจะระมัดระวังไม่ให้มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจะดีที่สุด
………………
กฤตยชญ์ พิงคะสัน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน รายงาน
