จันทบุรี-งานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี มีประชาชน พุทธศาสนิกชน นักแสวงบุญ ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทแล้วเกือบ 3 แสนคน เน้นย้ำรักษาความสะอาด รณรงค์ใช้ถุงผ้า แทนถุงพลาสติก เตรียมตัวให้พร้อมก่อนขึ้นเขา
บรรยากาศงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี หลังจากเปิดให้ขึ้นเขาได้ตั้งแต่ 25 มกราคม เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ มีนักแสวงบุญ ประชาชน พุทธศาสนิกชนเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อกราบไหว้ขอพร นมัสการรอยพระพุทธบาทแล้ว กว่า 250,000 คนโดยเฉพาะช่วงวันมาฆบูชาที่ผ่านมา มีนักแสวงบุญ ประชาชน ขึ้นไปบนยอดเขาจนแน่นขนัด ช่วงเวลาที่นิยมขึ้นไปบนยอดเขาคือช่วงเวลา 08.00 น.-16.00 น. และ ช่วงเวลา 24.00 – 08.00 น. ซึ่งปีนี้ ทางคณะผู้จัดงานได้ขอความร่วมมือประชาชนที่จะขึ้นไปบนยอดเขาร่วมรณรงค์อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก เตรียมน้ำดื่ม อาหาร และ ยารักษาโรคสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวให้พร้อมก่อนขึ้นไปบนยอดเขา ในปีนี้งานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี จะเปิดให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และนักแสวงบุญขึ้นไปกราบไหว้ขอพรรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏขึ้นไปได้ตลอด 24 ชั่วโมง จนถึงวันที่ 24 มีนาคม 2563 หรือขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 รวม 60 วันตามประเพณีที่ถือปฏิบัติมายาวนาน สักการะกราบไหว้ ขอพร รอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนลานหินกว้าง มีหินลูกบาตรคอยให้ร่มเงาบนยอดเขา ที่ความความสูงที่สุดในประเทศไทยจากน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร ท่ามกลางทิวทัศน์ความสมบูรณ์ของธรรมชาติป่าเขา สร้างความอิ่มเอมใจแก่ผู้มาเยือน มีรถบริการขึ้น–ลง เขาเหมือนเช่นเดิม ในราคารวมขึ้น – ลง 200 บาท ต่อคน มีค่าบริการเข้าอุทยานชาวไทยผู้ใหญ่ 20 บาท
เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทแต่ถ้าหากประสงค์จะเดินศึกษาธรรมชาติก็ได้แต่ใช้ระยะเวลาในการเดินและเส้นทางเดินที่เดินต้องมีความพร้อมของร่างกาย คิวรถบริการมี 2 คิว คือที่วัดพลวง และ วัดกระทิง ทั้งนี้ในด้านความปลอดภัยและการจราจร คณะผู้จัดงาน รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอาทิ คณะสงฆ์ เจ้าหน้าที่อุทยานเขาเขาคิชฌกูฏ และ จิตอาสา ร่วมอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยและการจราจร แนะหลีกเลี่ยงการเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เพราะจะมีประชาชนหนาแน่น หากเป็นวันธรรมดาทั้งกลางวันและกลางคืนจะสะดวกและสามารถชื่นชมทัศนียภาพอย่างอิ่มเอมใจ ซึ่งนายสมบูรณ์ ปุญสละ นักแสวงบุญจากจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ตนเป็นพนักงานบริษัทในเขตอุตสาหกรรมชลบุรีพาครอบครัวและเพื่อน ๆ มาขึ้นเขาหลายครั้งแล้ว ปีนี้ เห็นการเปลี่ยนแปลงของทางขึ้น – ลงเขามากกว่าเดิมเยอะโดยเฉพาะเส้นทางถนนบนเขา มีการตัดไม้ ปรับเนินดินปรับพื้นที่เพื่อขยายช่องทางการจราจร ก็เป็นห่วงว่าจะเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่รู้ตัว อยากให้ร่วมกันคงคุณค่า เสน่ห์ของธรรมชาติ อนุรักษ์ ไม่ต่อแต่งเติมจนผิดธรรมชาติอันทรงคุณค่า ไม่แสวงหาผลกำไรจากพุทธพาณิชย์ จะเป็นเสน่ห์ดึงดูดประชาชน นักแสวงบุญได้อย่างยาวนาน ด้านความปลอดภัยเชื่อมั่นเจ้าหน้าที่และคณะผู้จัดงานที่อำนวยความสะดวกอย่างดี มีการประชาสัมพันธ์ตลอดเส้นทาง ทำให้ประชาชน นักแสวงบุญ และนักท่องเที่ยวหน้าใหม่ที่ไม่เคยมาได้ทราบและมีโอกาสได้ขึ้นเขาเข้ากราบไหว้ขอพรรอยพระพุทธบาทบนยอดเขา อย่างสะดวก สบาย สร้างความประทับใจเป็นอย่างดี
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก