นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และผู้เข้ารับการฟื้นฟูสภาพทางสังคม ภายในศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดศรีสะเกษ สาขาอำเภอเมืองศรีสะเกษ ที่ วัดป่าหนองม่วง หมู่ที่ 8 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยมี พระอาจารย์บุญมี เตชะธมฺโม เจ้าอาวาสวัดป่าหนองม่วง พร้อมด้วย นายสุริยา บุตรจินดา รอง ผวจ.ศรีสะเกษ รอง ผอ.รมน.จว.ศก. ปลัดจังหวัด รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นางสาวอมร นามบุตร ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองศรีสะเกษ นายศรายุธ สีละออง ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหาร อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ และนำเยี่ยมชมศูนย์ฟื้นฟูฯ
นางสาวอมร นามบุตร ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า โครงการการดังกล่าว เป็นโครงการช่วยเหลือผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2568 ได้ดำเนินการจัดตั้งขึ้นที่ วัดป่าหนองม่วง หมู่ที่ 8 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยผ่านการประเมินจากคณะกรรมการบูรณาการ คัดกรอง บำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพ และฟื้นฟูสภาพทางสังคมระดับจังหวัด อนุมัติให้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดกลับสู่สังคมได้อย่างปกติสุข รวมทั้งเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในสังคมจากยาเสพติดผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมการฟื้นฟูตั้งแต่ 20 พฤศจิกายน 2567 – 7 มกราคม 2568 จำนวน 11 ราย
ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก โรงพยาบาลศรีสะเกษ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และ รพ.สต.บ้านหนองครกใต้ ตรวจคัดครอง ให้คำปรึกษา และรักษาสุขภาพ เป็นประจำทุกวันพุธของสัปดาห์ สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ฝึกอาชีพทำกระถางต้นไม้จากยางรถยนต์ กลุ่มสตรีบ้านหนองม่วง ต.หนองครก ฝึกอาชีพเพาะกล้าต้นไม้เพื่อส่งขาย กลุ่มสานตระกร้าพลาสติกบ้านหนองกิโล ต.หนองครก ฝึกอาชีพจักรสานตระกร้าจากวัสดุพลาสติก อบต.หมากเขียบ ประสานการฝึกอาชีพปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ และ สกร.ระดับอำเภอเมืองศรีสะเกษ เข้าให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการศึกษานอกระบบ เป็นต้น
โอกาสนี้ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ให้โอวาทแก่เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ และผู้เข้ารับการฟื้นฟูสภาพทางสังคม พร้อมเน้นย้ำการอยู่ร่วมกันภายในวัดซึ่งเคร่งครัดในธรรมวินัย และขอให้ผู้เข้ารับการฟื้นฟูสภาพทางสังคมทุกคนมีจิตใจที่เข้มแข็งเพื่อกลับไปเป็นคนดีของครอบครัวและสังคมต่อไป.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ รายงาน