รองผบช.สนง.ตรวจคนเข้าเมืองลงพื้นที่ตรวจกำชับ การเตรียมความพร้อมในการดำเนินการป้องกันปราบปราม และรักษาความสงบเรียบร้อย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 68 พร้อมร่วมแถลงข่าวคดีสำคัญ 3 คดี
เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2568 เวลา 13.30 น. พลตำรวจโท ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมอบหมายให้ พลตำรวจตรี พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เดินทางมาตรวจกำชับ การเตรียมความพร้อมในการดำเนินการป้องกันปราบปราม และรักษาความสงบเรียบร้อย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 และเป็นผู้แทนร่วมพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยว ลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 เวลา 17.30 น.- 19.30 น. ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พลตำรวจตรี สราวุธ คนใหญ่ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาให้การต้อนรับ
ในการเดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ครั้งนี้ พลตำรวจตรี พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้กำชับให้หน่วยในสังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 เพิ่มความเข้มในการสืบสวน ปราบปราม และจับกุมผู้กระทำผิด ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง เน้นความผิดเกี่ยวกับการนำคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร ช่วยเหลือซ่อนเร้นให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักโดยผิดกฎหมายพ้นจากการถูกจับกุม ฯลฯ กำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ ช่องทางเข้า-ออก ราชอาณาจักร เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบุคคลและหนังสือเดินทางด้วยความละเอียดรอบคอบ เน้นย้ำให้มีการออกตรวจสอบสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ที่มีการจ้างคนต่างด้าวเข้าทำงาน ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการดำเนินการด้านอื่นๆ ตามข้อสั่งการ
พลตำรวจตรี สราวุธ คนใหญ่ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 ได้รายงานความพร้อมในการปฏิบัติการตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ผลการปฏิบัติ ในการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ.2568 จนถึงปัจจุบัน มีรายละเอียด ดังนี้ จับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 1,066 ราย, จับกุมคนต่างด้าวอยูในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จำนวน 1,867 ราย, แจ้งข้อกล่าวหา เปรียบเทียบปรับเจ้าบ้านไม่แจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าว จำนวน 2,234 ราย, จับกุมความผิดฐานช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองฯ จำนวน 28 ราย, จับกุมความผิดฐานนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 3 ราย, จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 258 ราย, จับกุมความผิดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ จำนวน 282 ราย และจับกุมคดีอาวุธปืน จำนวน 108 ราย
ในจำนวนคดีที่มีการจับกุมข้างต้น กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 ได้บูรณาการรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบสวนขยายผลเครือข่ายขบวนการช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองฯ จำนวน 18 คดี โดยกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง นำเสนอผลการสืบสวนขยายผลคดีสำคัญในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 3 คดี แบ่งเป็น คดีขยายผลจับกุมขบวนการช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง พื้นที่ จังหวัดตาก จำนวน 2 คดี และ การสืบสวนจับกุมคนต่างด้าวกระทำความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 คดี มีรายละเอียด โดยสังเขป ดังนี้
คดีที่ 1 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มี.ค.68 เวลาประมาณ 06.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ตาก ร่วมกับ ตำรวจทางหลวง , ตำรวจภูธรจังหวัดตาก จับกุม นายชัยวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) พร้อมตรวจยึดรถยนต์ จำนวน 3 คัน แจ้งข้อกล่าวหา นายชัยวัฒน์ฯ กระทำผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ให้พ้นจากการจับกุม” พร้อมกับคนต่างด้าวสัญชาติจีน 3 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ คนต่างด้าวสัญชาติจีน 6 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” รวมคนต่างด้าว สัญชาติจีน จำนวน 9 ราย ต่อมาได้มีการสืบสวนขยายผลต่อเนื่องเพื่อพิสูจน์ทราบกลุ่มขบวนการเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดกระทั่งสามารถจับกุมกลุ่มขบวนการช่วยเหลือคนต่างด้าวในพื้นที่อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ได้อีก 1 เครือข่าย
คดีที่ 2 สืบจากเรื่องวันที่ 26 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตม.จว.ตาก ร่วมกับสภ.วังเจ้าและกกล.นเรศวร จับกุมนางสาวสมใจ (ขอสงวนนามสกุล)และนายณฐวัทน์ (ขอสงวนนามสกุล) พร้อมตรวจยึดรถยนต์จำนวน 2 คัน โดยแจ้งข้อกล่าวหานางสาวสมใจ และนายณฐวัทน์ กระทำผิด “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆเพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพรบ.คนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 ให้พ้นจากการจับกุม” พร้อมกับคนต่างด้าวสัญชาติจีนจำนวน 6 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และคนต่างด้าวสัญชาติจีนจำนวน 3 ราย ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” รวมคนต่างด้าวสัญชาติจีน 9 ราย
คดีที่ 3 จับกุมคน MR.LAI JINBANG สัญชาติจีน กับพวก รวม 3 ราย ตรวจยึดของกลาง จำนวน 32 รายการ ประกอบด้วย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค จำนวน 3 เครื่อง , จอคอมพิวเตอร์ จำนวน 3 จอ , โทรศัพท์มือถือ จำนวน 19 เครื่อง , อุปกรณ์ขยายสัญญาณอินเตอร์เน็ต จำนวน 5 เครื่อง , เครื่องกระจายสัญญาณ Wi-Fi จำนวน 2 เครื่อง แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันออนไลน์(ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์) ในการเล่นซึ่งมิได้อนุญาตจากเจ้าพนักงาน และเป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”
สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ฯ และการกระทำความผิดในกฎหมายอื่น การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประเทศเพื่อนบ้าน ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบจับกุมชาวต่างชาติที่เข้ามาในราชอาณาจักรและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดกฎหมาย การก่อเหตุอันตรายใด ๆ อันกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ กรุณาแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายัง สายด่วน สตม.1178.