กลุ่มชาวบ้านกว่า 20 คน นำเอกสารเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ สภ.แม่ปิงเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับประธานสหกรณ์สามล้อเครื่องฯ ข้อหาฉ้อโกง
เมื่อช่วงสายวันที่ 10 ม.ค. 62 ร.ต.อ.เกชา เนตรชัง พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง อำเภอเมืองเชียงใหม่ ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มีนางเตือนใจ ช่วยเยียวยา อายุ 53 ปี พร้อมกลุ่มชาวบ้านกว่า 20 คน นำเอกสารเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับนายนวสรณ์ จิตรแก้วธนัชญ์ อายุ 54 ปี ประธานสหกรณ์สามล้อเครื่องนครเชียงใหม่จำกัด ในข้อหาฉ้อโกง หลังจากที่ได้นำสหกรณ์ฯ มากล่าวอ้างว่าจะเปิดโครงการหมู่บ้านจัดสรร แต่ผ่านมา 2 ปีแล้ว โครงการกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ไม่มีโครงการเกิดขึ้นจริง
น
างเตือนใจ หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า เมื่อปี 60 ได้มีคนขับรถตุ๊กตุ๊กรับจ้างมาบอกว่า ทางสหกรณ์ฯ จะมีโครงการหมู่บ้านจัดสรรในราคาถูก ใครที่ติดเครดิตบูโร ไม่มีเครดิตธนาคาร กู้เงินกับธนาคารเพื่อซื้อบ้านไม่ได้ ก็สามารถมาซื้อบ้านของโครงการได้ ราคาไม่แพง เพราะผ่อนกับโครงการ ราคา 850,000 บาท แล้วตัวโครงการก็มีอัตราการผ่อน 5 ปี 10 ปี แล้ว 25 ปี คล้ายกับของธนาคารทุกอย่าง แต่มีเงื่อนไขคือต้องมาเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ แล้วก็เสียเงินค่าเข้าสหกรณ์ฯ เงินค่าจอง รวมประมาณ 5 พันบาท ก็มีคนสนใจจำนวนมาก เมื่อนัดกันไปทำสัญญา ก็ไปทำที่ทำการของสหกรณ์ฯ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านต้นขาม ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทางสหกรณ์ยังให้ความเชื่อมั่นว่าโครงการเกิดขึ้นแน่นอน เพราะมีแบบแปลนบ้านให้เรียบร้อย และบอกเหมือนกับว่ามีโปรโมชั่น หากใครมาจองภายในเดือนธันวาคม 60 ก็จะได้บ้านในราคานี้ หากจองตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 61 ไปแล้วก็จะได้บ้านในราคา 1.2 ล้านบาท ก็มีคนไปจองเพราะกลัวจะได้บ้านแพง ต่อมาก็มีการขึ้นเสาเอก เพื่อจะก่อสร้างโครงการ ก็ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อมากขึ้น มีคนไปร่วมในพิธีลงเสาเอกด้วย แต่ผ่านมาจนถึงเดือน เม.ย. 61 ก็ไม่เห็นโครงการเกิดขึ้น ทางโครงการก็อ้างฝนตก ทำการก่อสร้างไม่ได้ ถมดินไม่ได้ และขณะนี้เงินทุนไม่พอกำลังหานายทุนมาร่วมใหม่ และล่าสุดเดือนตุลาคม 61 ก็บอกว่ามีนายทุนใหม่มาร่วมลงทุนแล้ว เกิดขึ้นแน่นอน และจะก่อสร้างเดือนพฤศจิกายน 61 แต่เวลาผ่านมา ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า สถานที่ก่อสร้างก็ยังเป็นป่ารกร้าง เมื่อสอบถามไปก็บ่ายเบี่ยงตลอด ซึ่งทางโครงการบอกว่า หากใครต้องการเงินคืน ไม่รอการก่อสร้างให้มาติดต่อและจะคืนเงินให้ สุดท้ายก็ยังไม่มีใครได้เงิน จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้
นางเตือนใจ บอกว่า ตนสูญเงินกว่า 4 แสน เพราะจองบ้านให้ตนเอง พี่สาวและลูกสาวไป ส่วนคนอื่นๆ ตอนนี้ที่มาแจ้งความแล้วก็น่าจะรวมกว่า 50 คน ยังไม่นับคนที่ยังไม่มาอีก ก็น่าจะเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เพราะมีหลายคน และแต่ละคนขั้นต่ำที่เสียเงินไปก็ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท บางคนก็ผ่อนเงินล่วงหน้าให้ เพราะโครงการบอกว่าจะก่อสร้างและใครอยากได้บ้านก่อนก็ให้จ่ายเงินมาล่วงหน้ามาให้ ระยะหลังก็ไม่มีใครติดต่อประธานสหกรณ์ฯ ได้ เมื่อคุยเข้าไปในกลุ่มไลน์ ก็มีคนออกรับหน้าแทนตลอด ทำให้กลุ่มชาวบ้านรู้ว่าไม่น่าจะได้เงินคืน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ นำมาแจ้งความในข้อหาฉ้อโกง ในวันนี้
ด้านพนักงานสอบสวนเปิดเผยว่าคดีนี้ต้องสอบปากคำผู้เสียหายทุกคนที่มาแจ้งความจากนั้นไม่เกิน 1 สัปดาห์จะออกหมายเรียกรอบแรก หากไม่มาจะออกหมายเรียกรอบสอง ไม่มาอีกก็ต้องออกหมายจับตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป.
นิมิตร โปทา ภาพ/ข่าว