สืบสวนบางแก้ว ตามรวบโจรแสบตระเวนงัดบ้านหรูย่านบางแก้วกวาดทรัพย์สินกว่า 80 รายการ รวมมูลค่ากว่าสิบล้านบาท ขณะที่ผู้เสียหายโวยระบบรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านไร้ประสิทธิ์ภาพ ด้านเจ้าของบ้านเผยโจรสารภาพว่าเจอกุมารยืนขวางทางขึ้นบันไดบ้านจนต้องวิ่งหนีออกมา
ภาพขณะที่ พ.ต.ท.ชาญวุฒิ เทียมมงคล รอง.ผกก.สส.สภ.บางแก้ว / พ.ต.ท.สมบูรณ์ ทรงมีสิงหสกุล สว.สส.สภ.บางแก้ว / พ.ต.ต.วสันต์ วงศ์เรือง สว.สส.สภ.บางแก้ว นำหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าแสดงตัวและจับกุมตัว นายกุลภพ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน / ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือผ่านสิ่งกีดกั้นเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม / หลังจากที่ฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางแก้ว ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายอย่างน้อย 6 ราย มาแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกคนร้ายบุกรุกเข้าไปในบ้านพักงัดเอาทรัพย์สินไปหลายรายการรวมมูลค่ากว่าสิบล้านบาท โดยฝ่ายสืบสวนได้หาเบาะ และ แกะรอยจากกล้องวงจรปิดจนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายกุลภพ ได้หลบหนีมากบดานในบ้านพักของเพื่อนย่านประเวศ กทม จึงขออนุมัติหมายจับและเฝ้าติดตามกระทั่งพบตัวผู้ต้องหารายนี้ หลบซ่อนในบ้านจึงเข้าจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง และ นำทรัพย์สินบางส่วนไปขายแล้ว อีกส่วนซุกซ่อนในถังแช่เย็นข้างบ้าน เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพบทรัพย์สินอีกมากมายเกือบร้อยรายการ ไม่ว่าจะเป็น สร้อยแหวนเงินทอง นาฬิกาแบรนเนม พระเครื่องต่างๆ และอื่น ๆ อีกมากมายจึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดพร้อมนำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ,บางแก้ว พร้อมแจ้งผู้เสียหายมาดูของกลางและชี้ตัวผู้ต้องหารายนี้
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ที่หน้า สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ รอง.ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ รรท.ผกก.สภ.บางแก้ว พร้อมด้วยชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ พร้อมของกลางจำนวนมาก / รรท.ผกก.สภ.บางแก้ว เปิดเผยว่า สำหรับการแถลงข่าวรายนี้ ถือเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่และผู้เสียหายเป็นอย่างมาก พอเกิดเหตุมีผู้เสียหายมาแจ้งความ ตนเองก็สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไปเร่งตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาให้ได้โดยเร็ว จนสามารถจับกุมตัวได้
ด้าน พ.ต.ท.ชาญวุฒิ เทียมมงคล รอง.ผกก.สส.สภ.บางแก้ว ระบุว่า จากแนวทางสอบสวนพบว่าคนร้ายเข้าไปก่อเหตุในหมู่บ้านหรู ในช่วงกลางวันแสก ๆ ถึงสองวันติด ก่อนเหตุวันเดียวถึงสามหลัง ซึ่งการติดตามหาตัวคนร้ายค่อนข้างลำบาก เนื่องจากผู้ต้องหาจะอาศัยปีนเข้าข้างหมู่บ้านหรือข้างบ้านเข้าไปก่อเหตุ ซึ่งหลังจากการจับกุมตัวได้ พร้อมทรัพย์สินอีกหลายรายการยังไม่มีเจ้าของทรัพย์มาแจ้งความประสงค์ ซึ่งเชื่อว่านอกจากผู้เสียหาย 6 ราย ที่มาแจ้งความแล้วยังเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้ยังไม่ก่อเหตุที่อื่นอีก หากผู้เสียหายรายได้ที่ถูกโจรขึ้นบ้านและต้องสงสัยว่าจะมีทรัพย์สินในครั้งนี้หรือไม่ก็สามารถมาขอดูทรัพย์สินที่ สภ.บางแก้ว ได้เช่นกัน ส่วนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ที่ทำเพราะติดหนี้การพนันต้องการหาเงินไปใช้หนี้การพนันและใช้จ่ายทั่วไป
ด้านคุณโบว์ หนึ่งในผู้เสียหายที่มีบ้านพักในโครงการหมู่บ้านหรูเลียบด่วนกาญจนา บอกว่า บ้านของตนเองอยู่ใกล้ป้อม รปภ.แท้ๆ แต่เจ้าหน้าที่ รปภ. ยังล่ะหลวมให้คนร้ายเดินเข้ามาในหมู่บ้านจนเข้ามาก่อเหตุภายในบ้านอย่างง่ายดาย ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมา รปภ.ของบริษัทแห่งนี้จะมีการเปลี่ยน รปภ บ่อยมาก และ ไม่ออกตรวจตราในหมู่บ้าน จึงกลายเป็นโอกาสที่ทำให้คนร้ายรายนี้เดินชิวหาเข้าบ้านพักของลูกบ้านได้ ถึงแม้จะต้องจ่ายค่าส่วนกลางตกปีละสองหมื่นกว่าบาทแต่ก็ยังไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ยังเคราะห์ดี ที่ตำรวจตามจับคนร้ายได้ และ ติดตามทรัพย์สินคืนมาได้บางส่วน หากยังจับตัวไม่ได้ลูกบ้านยังคงต้องนอนผวาโจรต่อไป
ขณะที่ คุณธัญญ์ฐ์ดา หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกโจรรายนี้ขึ้นบ้านและขโมยทรัพย์สินไปด้วยเช่นกัน ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ชนขนหัวลุกว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกจับกุม ผู้ต้องหาเล่าให้ตนเองและตำรวจฟังว่า พอเข้าไปก่อเหตุในบ้านของตนเองที่ชั้นล่างเสร็จและกำลังขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองที่ห้องนอน ปรากฏว่าผู้ต้องหารายนี้ต้องวิ่งหนีหน้าตั้งออกจากบ้านไปเพราะไปเจอกุมาร สององค์ผมจุก ยืนถอดเสื้อท้าวเอวขวางที่ทางขึ้นบันได้ ซึ่งถามว่าตนเองเลี้ยงกุมารไว้จริงไหม ยอมรับว่าเลี้ยงไว้จริง เป็นกุมารที่ชื่อว่าพี่จุกกับพี่จันทร์ ซึ่งตนได้บุชามาจากวัดแห่งหนึ่งแถวสวนหลวงเมื่อสี่ถึงห้าปีก่อน และ เป็นกุมารที่ตนเองมีความเชื่อความศรัทธาให้มาช่วยปกปักรักษาครอบครัวและทรัพย์สินในบ้าน ที่ผ่านมาเคยได้โชคลาบบ้างแต่ก็ไม่บ่อย และ ยังเคยฝันถึงก็มี พอถามผู้ต้องหาถึงรูปร่างของกุมารก็บอกตรงกันตามภาพที่ตนเองเอาให้ดู ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่หน้าเหลือเชื่อแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับตนเองและครอบครัวหากโจรในวันนั้นไม่เจอกุมารตามที่เขาบอก คงงัดเข้าไปในห้องนอนซึ่งมีทรัพย์สินเงินทองอีกจำนวนมากต้องสูญหายไปอย่างแน่นอน
ภาพ/ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ