พะเยา ศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้ารับแก้ปัญหาพิพาทที่ดิน ม.พะเยา
เจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดพะเยา เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยพะเยา เจ้าหน้าที่ป่าไม้พะเยา เข้าร่วมตรวจสอบเรื่องราวร้องทุกข์ของศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้า ในนามกรมป่าไม้ ศูนย์เรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินพิพาทระหว่างชาวบ้านกับมหาวิทยาลัยพะเยา หลังชาวบ้านยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งเดินทางมา ครม.สัญจรจังหวัดเชียงราย-พะเยา ซึ่งชาวบ้านเรียกร้องให้ตรวจสอบพื้นที่ดินของมหาวิทยาลัยพะเยา ที่ได้รับอนุญาต หลัง ม.พะเยา เข้าทำการลุกล้ำพื้นที่ทำกินชาวบ้าน
ชาวบ้านที่มีพื้นที่ติดกับแนวเขตของมหาวิทยาลัย จำนวน 8 ราย ที่ได้รับผลกระทบ หลังจากที่มหาวิทยาลัยพะเยา ได้เข้าทำการรุกล้ำพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน โดยการก่อสร้างอาคารสถานที่ต้องเข้าทำการชี้แจงให้ข้อมูลในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดพะเยา เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยพะเยา เจ้าหน้าที่ป่าไม้พะเยา ในนามศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้า ในนามกรมป่าไม้ศูนย์เรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล หลังเกิดข้อพิพาทในพื้นที่ทำกินกับแนวเขตของมหาวิทยาลัย จนต้องเข้าร้องเรียนต่อหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบแต่เรื่องก็ไม่คืบหน้าแต่อย่างได ล่าสุดชาวบ้านทั้ง 8 รายได้เข้ายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้า ผ่านให้นายกรัฐมนตรีเมื่อครั้งเดินทางเข้าตรวจติดตามการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดพะเยา เมื่อคราที่เดินทางมาประชุม ครม.สัญจร ที่ผ่านมา จนล่าสุดศูนย์เรื่องราวร้องทุกข์ดังกล่าว ได้เข้าทำการรับฟังเรื่องราวชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวน 8 รายเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
โดยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดพะเยา เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยพะเยา เจ้าหน้าที่ป่าไม้พะเยา ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ของมหาวิทยาลัยพะเยา ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามประกาศกรมป่าไม้เรื่องกำหนดบริเวณพื้นที่ส่วนราชการหรือองค์กรของรัฐเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติจำนวน 3 แปลงที่ได้รับอนุญาต จำนวน 470 ไร่ ว่าเป็นไปตามที่อนุญาตหรือเปล่า กลุ่มผู้ร้องเรียนประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ส่วนกลางมาดำเนินการรังวัด และเมื่อมีการตรวจสอบพื้นที่เสร็จสิ้นแล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเคร่งครัดและโดยเร็ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้ พร้อมจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เนื่องจากกรณีพิพาทดังกล่าวใช้เวลามากว่า 5-6 ปี จนชาวบ้านขาดโอกาสในการใช้พื้นที่ของตนเองที่ครอบครองทำกิน