สำหรับความเดือดร้อนของชาวบ้ านดังกล่าว เกิดขึ้นที่หมู่บ้านสะบือรัง ม.3 ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส เมื่อชาวบ้าน จำนวน 8 ครัวเรือน รวม 30 คน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากที่ดินทำกินซึ่งอยู่แนวริ มตลิ่งของคลองแว้ง ได้ถูกกระแสน้ำกัดเซาะเป็ นเวลานานกว่า 6 ปีที่ผ่านมา จนที่ดินทำกินได้ทรุดตั วลงจมหายไปกับกระแสน้ำ โดยเฉพาะครอบครัวของ น.ส.ฟารีดา มะสีระ อายุ 25 ปี เลขที่ 13/2 ซึ่งเป็น 1 ใน 8 ครอบครัว บ่อน้ำบาดาลที่เคยใช้ในการอุ ปโภคบริโภค ปัจจุบันบ่อน้ำลูกดังกล่าวได้ จมไปอยู่กลางคลอง และกอต้นไผ่ขนาดใหญ่ จำนวน 2 กอ ที่ปลูกไว้หลังบ้านพัก ปัจจุบันนี้กอไผ่ดังกล่าวก็ ไปจมอยู่กลางคลองเช่นกัน แถมยังไปกีดขวางทางน้ำไหล จนเป็นเหตุให้กระแสน้ำที่ไหลเชี่ ยวกลากได้เปลี่ยนทิศและได้กั ดเซาะริมตลิ่งของชาวบ้านทั้ง 8 ครัวเรือนหนักมากขึ้นในทุกวันนี้ ซึ่งเดิมทีคลองแว้งมีความกว้ างเพียง ประมาณ 5 เมตร แต่หลังจากกระแสน้ำกัดเซาะ ทำให้คลองแว้งในปัจจุบันกว้ างโดยประมาณ 25 เมตร ซึ่งคิดเป็นที่ดินทำกินของชาวบ้ านที่ถูกน้ำกัดเซาะ สูญเสียจมหายไปอยู่ใต้กระแสน้ำ โดยเฉลี่ยครอบครัวละ 20 เมตร
และจากสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่ างหนักในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังส่งผลทำให้ที่ดินทำกิ นของชาวบ้าน 8 ครัวเรือน ได้ถูกกระแสน้ำที่กัดเซาะอย่ างต่อเนื่อง และหากปล่อยปัญหาดังกล่าวทิ้ งไว้ นอกจากที่ดินทำกินของชาวบ้ านจะทรุดลงจมหายไปตามกระแสน้ำ แล้ว บ้านเรือนของชาวบ้านทั้ง 8 ครอบครัว อาจจะทรุดตัวและถล่มตามไปกั บกระแสน้ำด้วย ชาวบ้านทั้ง 8 ครัวเรือน จึงได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลื ออย่างเร่งด่วนไปยังเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง โดยผ่านศูนย์ดำรงธรรมประจำ อ.แว้ง ซึ่งล่าสุดนายไตรทิพย์ สกุลประดิษฐ์ นายอำเภอแว้ง ได้มอบหมายให้นายสุฤทธิ์ ถมเล็ก ปลัดอำเภอ พร้อมด้วย พ.ท.สิทธิชัย บำรุงเขต ผบ.ร้อย 151 พัน 2 ร.ท.แทนคุณ พูลทรัพย์ นายทหาร ร้อย ร.151 พัน 2 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบเรื่องดังกล่าวต้องให้ การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยทางเทศบาลตำบลแว้ง และ อบต.ฆอเลาะ จะนำรถแบคโฮ มาทำการขุดลอกกอไผ่ขนาดใหญ่ทั้ง 2 ต้น ออกจากคลอง เพื่อให้กระแสน้ำได้ไหลสะดวก และมาตรการระยะยาว ทางโยธาธิการ จ.นราธิวาส จะตั้งงบประมาณในการทำหินกระชุ ริมตลิ่งเป็นแนวยาว ระยะทางประมาณ 230 เมตร ที่บริเวณแนวริมตลิ่งซึ่งเป็นที่ ดินทำกินของชาวบ้านต่อไป
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ