สงขลา/สะเดา นายกเล็กเมืองสะเดา ร่วมกลุ่มพลังมวลชน ชาวบ้าน และหน่วยงานในพื้นที่ไม่เห็นด้วย ต้านแนวสายไฟฟ้าแรงสูง พาดผ่านพื้นที่โครงการ สวนพุทธประวัติพระพุทธเจ้า และสวนสาธารณะ หวั่นส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพ
วันนี้ 5 พ.ค.62 เทศบาลเมืองสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ประกาศกำหนดทำประชาคม ในวันที่ 13 พ.ค. 2562 เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์จำหน่ายสินค้า OTOP พุทธอุทยานเข่าเล่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สถานที่ประดิษฐาน พระพุทธนิมิตพิชิตมาร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ สูงถึง 39 เมตร และสถานที่ประดิษฐานหลวงปู่ทวด เจ้าแม่กวนอิม และพระสังกัจจายน์ และยังเป็นจุดชมทะเลหมอก ที่มีความสวยงามของเมืองสะเดา เพื่อลงนาม MOU ความร่วมมือระหว่างเทศบาลเมืองสะเดา กับกลุ่มพลังมวลชล และประชาชนชาวสะเดา
เพื่อเตรียมคัดค้านระงับโครงการของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่มีโครงการก่อสร้างเสาไฟฟ้า และพาดสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ระบบ 230 กิโลโวลต์ จาก บ้านคลองแงะ ตำบลพังลา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ผ่านโครงการ สวนพุทธประวัติพระพุทธเจ้า และสวนสาธารณะเขาเล่ เพื่อส่งกระแสไฟฟ้าแรงสูง ไปยังประเทศมาเลเซีย
นายสุเมธ ศศิธร นายกเทศมนตรีเมืองสะเดา บอกว่า ทางเทศบาลเมืองสะเดา ได้ร่วมกับพลังมวลชน และประชาชน ในเขตเมืองสะเดา จัดทำประชาคมข้อตกลง (MOU ) กับกลุ่มพลังมวลชน และประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสะเดา เพื่อระงับโครงการดังกล่าว เนื่องจากทางเทศบาลเมืองสะเดา ได้จัดทำโครงการสร้าง สวนพุทธประพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ บนที่ดินที่มีผู้บริจาคให้ จำนวน 22 ไร่ ซึ่งที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ฝั่งทิศตะวันออก ก่อนถึง อุทยานเขาเล่โดยจะก่อสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้ทางพุทธประวัติ ตั้งแต่ตอนเริ่มออกบวช จนถึงตรัสรู้ มีหมู่บ้านนางสุชาดา, เจดีย์พุทธคยาม และประติมากรรมต่างๆ ซึ่งจำลองมาจากประเทศอินเดีย รวมถึงสร้างเป็น อาคารอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริขององค์พระเทพรัตนราชสุดาฯ ซึ่งมีงบประมาณเรียบร้อยแล้ว 23 ล้านบาท อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายใน 2 – 3 เดือนนี้
ส่วนโครงการที่ 2 เป็นโครงการต่อเนื่องจาก สวนพุทธประวัติพระพุทธเจ้า บนเนื้อที่กว่า 700 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ และผู้ว่าราชการจังหวัด อนุญาตให้ใช้พื้นที่ ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับโครงการแรก โดยมีถนนสายเขาเล่ ตัดผ่ากลางทั้งสองโครงการ โดยโครงการที่ 2 ได้กำหนดจะสร้างเป็นสวนสาธารณะ ชื่อสวนลุมพินีวัน ซึ่งมีขนาดใหญ่ เพื่อทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ของชาวสะเดา และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซึ่งเป็น ภูมิสถาปัตย์ ที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ พระพุทธเจ้า ในช่วงประสูติ จนเจริญวัย และป่าสวนกวาง
หากมีการสร้างโครงข่ายสายไฟฟ้าแรงสูง พาดผ่านบริเวณดังกล่าว จะทำให้ภูมิทัศน์ตามโครงการขาดความสวยงาม และอาจจะก่อสร้างไม่ได้ เนื่องจากแนวสายไฟฟ้าแรงสูง จะต้องกันบริเวณพื้นที่ไว้ประมาณ 50 เมตร จึงมองว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ควรพิจารณาจะเปลี่ยนเส้นทางไปแนวเดิมที่มีอยู่แล้ว
“ส่วนตัวแล้วไม่ได้ต่อต้าน การผลิตกระแสไฟฟ้า และยินดีที่จะร่วมการพัฒนา แต่ขอให้พิจารณา เปลี่ยนเส้นทาง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และการท่องเที่ยวในพื้นที่ของเทศบาลเมืองสะเดา และชาวสะเดา ’’
พิภพ ประดิษฐ์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดสงขลา รายงาน