8 เมษายน 2568 นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายสิทธิภัทร ปาละนันทน์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดแพร่ และผู้แทนบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10(ประเทศไทย) จำกัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าว กรณีมีข่าวทางโซเชี่ยลเรื่องการก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัดแพร่มีความคืบหน้าไปเพียง 20 % และความชัดเจน กำหนดการแล้วเสร็จของโครงการ ณ ไซด์งานโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัดแพร่ ต.น้ำชำ อ.เมืองแพร่ จ.แพร่
นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัดแพร่ มีงบประมาณการก่อสร้าง 674 ล้านบาท ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง โดยการประกวดราคาทางอีเลกโทรนิก และได้ผู้รับจ้าง ก็คือ กิจการร่วมค้า AKC ที่ร่วมทุนระหว่างบริษัท อัครกร ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทร่วมค้านี้ได้ยื่นการประกวดราคาในวงเงิน 539 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่างบที่ตั้งไว้ประมาณ 130 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 1,080 วัน
จังหวัดแพร่ได้ลงนามกับบริษัทร่วม AKC เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 ซึ่งสัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 14 มีนาคม 2567 มีงวดงานทั้งสิ้น 237 งวดงาน หลังจากผู้รับจ้างได้เข้ามาที่ไซด์งานและลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยก็ได้ขอให้มีการปรับแก้ไขผังบริเวณ แก้ไขรูปแบบของการตอกเสาเข็ม ส่งเข้าไปในกระทรวงมหาดไทยเพื่อขออนุมัติรูปแบบซึ่งขณะนั้นมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ข้าราชการที่ดูแบบอยู่มีการทำงานแบบเวิร์คฟอร์มโฮม ทำให้การพิจารณารูปแบบรายการก็มีความล่าช้าไปด้วย
นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวอีกว่า จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568ที่ผ่านมา ผมได้เข้ามาประชุมที่ไซด์งานแห่งนี้ ได้เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและกิจการร่วมค้า AKC มาประชุม และได้มีการเร่งรัดในการก่อสร้าง ขอนำเรียนว่าที่มีกะแสข่าวออกไปว่ามีความคืบหน้าแค่ 20 % ซึ่งเป็นความคืบหน้าในภาพรวม เพราะมีบางอย่างที่เราอยู่ในระหว่างการรอการอนุมัติ เช่นรอผังบริเวณศูนย์ราชการจากกระทรวงมหาดไทยและในส่วนของพระบรมราชาอนุสาวรีย์สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งรออนุมัติแบบจากกรมศิลปากร ซึ่งถ้านับสองส่วนนี้เข้าไปเปอร์เซ็นต์การก่อสร้างมันก็น้อยเพราะต้องรอการอนุมัติ เพราะฉะนั้นการพิจารณาจะต้องมาพิจารณาที่ตัวอาคาร ว่าทั้ง 4 อาคารมีความคืบหน้าเพียงใด ก็ขออนุญาตนำเรียนแยกเป็นรายอาคารดังนี้ อาคารสูง 4 ชั้น มีความคืบหน้าการก่อสร้าง 33.5 % หอประชุม 1,000 ที่นั่ง มีความคืบหน้าอยู่ 45 % อาคารโรงอาหารมีความคืบหน้าอยู่ 42 % อาคารสโมสรร้านค้ามีความคืบหน้า 43 %
สถานการณ์โรคโควิด ทำให้ผู้รับจ้างได้รับความช่วยเหลือมีค่าปรับเป็นศูนย์ จำนวน 554 วัน หลังจากวันที่ 14 มีนาคม 2567 จนถึง 19 กันยายน 2568 แต่ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2568 เป็นต้นไปหากผู้รับจ้างยังก่อสร้างไม่เสร็จอีก จะถูกปรับวันละ 539,995 บาท จนกว่าจะไปเสร็จสิ้นโครงการ ในเบื้องต้น ผู้รับจ้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งนับจาก 19 กันยายน 2568 ถึง วันที่ 1 กุมพาพันธ์ 2569 ผู้รับจ้างจะมีค่าปรับประมาณ 90 ล้านบาท ซึ่งผู้รับจ้างได้ยอมรับว่าหากถึงสถานการณ์นั้นจริง ก็ยอมรับถูกปรับอย่างไม่มีเงื่อนไข
ในส่วนของตัวแทนผู้รับจ้าง กล่าวถึงการดำเนินการก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัดแพร่ว่า จะทำตามกำหนดสัญญาในการก่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัดแพร่อย่างเคร่งครัด แล้วก็ดำเนินการทำให้แล้วเสร็จตามสัญญาอย่างแน่นอน ไม่หนีงานแน่นอน สัญญากันไว้อย่างไรก็จะปฏิบัติตามอย่างนั้น ในส่วนของการเร่งการดำเนินการก่อสร้างนั้นจะมีการปรับเวลาของคนงานก็คือ อาจจะมีการให้ทำโอทีในช่วงกลางคืนสองถึงสามชั่วโมง มีคนงานขณะนี้ 140 คน แต่จะเพิ่มคนงานขึ้นมาเรื่อยๆอาจจะมีมากถึง 250 คน
ญาณัจฉรา โชติถนอมกิจ รายงาน
