หลังการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์หมอกควัน ไฟป่าภาคเหนือของนายกรัฐมนตรี ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแผนการทำงานอย่างต่อเนื่องโดยเน้นการเฝ้าระวัง การเกิดจุดความร้อน โดยใช้การลาดตระเวน ทำแนวกันไฟ และดับไฟป่าให้เร็วที่สุด ส่งผลให้ จุดฮอตสปอตใน 9 จังหวัดภาคเหนือ ลดลงกว่า 91%
พล.ท.สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระดับภาคส่วนหน้า ( ศอ.ปกป.ภาค (สน. )สรุปผลการปฏิบัติงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ห้วง 2 – 9 เม.ย.62 พบว่าสถานการณ์จุดความร้อนลดลง ตามลำดับ กว่า 91% สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ที่ผ่านมามีการจัดกำลังเข้าปฏิบัติงาน ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 5,791 นาย เป็นฝ่ายทหาร จำนวน 1,716 นาย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จำนวน 1,045 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 476 นาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จำนวน 1,505 นาย และจิตอาสา จำนวน 1,049 นาย ลีการใช้อากาศยานในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประกอบด้วยอากาศยานกองทัพบก mi 17 จำนวน 4 เครื่อง ,ฮท.212 จำนวน 1 เครื่อง( กองกำลังผาเมือง ) โดยสามารถบินดับไฟได้ จำนวน 72 เที่ยว ปริมาณน้ำ 166,800 ลิตร มีพื้นที่ดับไฟ จำนวน 260 ไร่ และอากาศยานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 3 เครื่อง ใช้อากาศยานดับไฟใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 53 เที่ยว ปริมาณน้ำ จำนวน 26,500 ลิตร พื้นที่จังหวัดลำปาง จำนวน 62 เที่ยว ปริมาณน้ำ จำนวน 32,000 ลิตร และจังหวัดเชียงราย จำนวน 50 เที่ยว ปริมาณน้ำ จำนวน 25,000 ลิตร
นอกจากนี้ทางศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระดับภาคส่วนหน้าได้รับเครื่องเป่าลมจากกองทัพบก จำนวน 30 เครื่อง อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน คือจะต้องจัดทำแผนการควบคุมไฟป่าและหมอกควันร่วมกันอย่างบูรณาการ โดยยังคงให้จังหวัดเป็นหน่วยหลัก จนถึงวันที่ 30 เม.ย.62
ทั้งนี้แม่ทัพน้อยที่ 3 ชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน ทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จิตอาสาในทุกพื้นที่ ที่ได้ร่วมแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันใน ซึ่งทางศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาคส่วนหน้าพร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงานในการแก้ไขปัญหาเต็มที่