6 มีนาคม 2568 ที่ ห้องลำปลายมาศ รร.แคนทารี โคราช นายเลิศชัย ธนประศาสน์ ประธานสภา อบจ.นครราชสีมา เรียกประชุมสภา อบจ.นครราชสีมา สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2568 ซึ่งการประชุมครั้งนี้ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ได้แถลงนโยบายต่อสภา อบจ. โดยไม่มีการลงมติ ก่อนเข้ารับหน้าที่ในตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมา อย่างเป็นทางการ ในระเบียบวาระการประชุมที่ 3 นายก อบจ.นครราชสีมา ได้แถลงนโยบาย ต่อสภา อบจ.นครราชสีมา โดยมี สมาชิกสภา อบจ. นครราชสีมา จำนวน 46 คน (ลาประชุม 2 คน) พร้อมด้วย นายวุฒิชัย วงค์ปัญโญ ปลัด อบจ.นครราชสีมา, นายธรรมบาล ฉิมพลี รองปลัด อบจ. และ หัวหน้าส่วนราชการ เข้ารับฟังการแถลงนโยบาย
นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา เริ่มอ่านคำแถลงนโยบายต่อสภาฯ โดย กำหนดวิสัยทัศน์ในการบริหารงาน อบจ. ระหว่างปี 2568 – 2572 “โคราชโฉมใหม่ คนคุณภาพ ศูนย์รวมเศรษฐกิจการค้า เมืองแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน” ภายใต้พันธกิจ “สร้างคน สร้างเศรษฐกิจ สร้างเมืองโคราช” โดยมีเป้าหมายพัฒนาจังหวัดไปสู่ความก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน “โอกาสโคราช เพื่อโคราชโฉมใหม่ เมืองแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน” มีกรอบการทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานการปฏิบัติงานและการประเมินผลอย่างเป็นระบบ ยึดหลักการ “ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตรวจสอบ” ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื่อมโยงกับนโยบายรัฐบาล ราชการส่วนกลาง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัด และยุทธศาสตร์จังหวัด บูรณาการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
สำหรับนโยบายหลักๆ ที่จะทำใน 4 ปีข้างหน้านี้ เป็นการสานต่อนโยบายที่ได้ทำไว้ และต้องทำต่อให้เกิดเป็นรูปธรรม ได้แก่ 1.นโยบายโครงการตามแนวทางพระราชดำริ, 2.นโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างคนให้มีคุณภาพ พัฒนาคนให้มีสุขภาวะที่ดีในทุกด้าน เท่าทันการเปลี่ยนแปลง 3.นโยบายด้านพัฒนาเศรษฐกิจ ให้ จ.นครราชสีมา เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน อาทิ ด้านธุรกิจห้างร้าน อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การท่องเที่ยว รวมถึงผลักดัน SOFT POWER เพื่อส่งเสริมศักยภาพที่เข้มแข็ง และ 4.นโยบายด้านการพัฒนาเมือง ให้เป็นมหานครแห่งโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ได้รับความสนใจทั้งจากภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการและนักลงทุน เพื่อรองรับการเป็นเมืองน่าอยู่ เมืองอัจฉริยะ ที่สำคัญ การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมกล่าวว่า “ตนขอให้สภาและประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้เชื่อมั่นว่า ตนจะใช้ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ ประกอบกับศักยภาพทีมบริหาร จะนำพาจังหวัดสู่การพัฒนาให้เจริญก้าวหน้า โดยตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานของการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส มีธรรมาภิบาล เพื่อวางฐานรากการพัฒนาให้จังหวัดนครราชสีมา ก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน”
ซึ่งภายหลังที่ นายก อบจ. แถลงนโยบายเป็นที่เรียบร้อย ได้มี ส.อบจ. จำนวน 12 คน ลุกขึ้นอภิปรายและแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายนายก โดยเฉพาะเน้นย้ำให้นายกฯ พร้อมด้วยฝ่ายบริหาร ดูในเรื่องของแหล่งน้ำอุปโภค บริโภค แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจาก จ.นครราชสีมา กำลังจะเข้าสู่ภาวะภัยแล้ง ดูในเรื่องการศึกษา เรื่องคุณภาพชีวิต ให้คลอบคลุมและทั่วถึงทั้ง 32 อำเภอ
“หลังจากนี้ ตนขอทำงานเพื่อให้ทุกนโยบายที่ได้แถลงในวันนี้ เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้ระเบียบกรอบข้อกฎหมาย สิ่งไหนสามารถทำได้ ทำทันที หรือสิ่งใดเกินศักยภาพของ อบจ. ก็พร้อมประสานส่วนกลาง ไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงของจังหวัด ตนพร้อมตั้งรับทุกปัญหาและจะนำไปสู่การแก้ไข ภายใต้การประสานการทำงานร่วมกับ ส.อบจ. ทั้ง 48 คน ที่จะร่วมกันพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้ประชาชนมีความสุข จะบริหารงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน “สิ่งไหนทำได้ก่อน ทำทันที”
อภิรักษ์ ศรีอัศวิน รายงาน