เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมาสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ได้มอบหมายให้ นายชนินทร์ ศุภรินทร์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร และนายภาคิน เทียบคำ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับด่านศุลกากรช่องจอม และหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝปป.2 สปป.1 กสป.วางแผนตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย จำนวน 4 แห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเชื่อว่าภายในมีการลักลอบเก็บและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก โดยผลการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 17,000 ชิ้น มูลค่ารวมประมาณ 7 ล้านบาท
บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง “กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2557” และเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าหรือส่งออกตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560
โดยการลักลอบจำหน่ายเป็นความผิดตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของรวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ