นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ
เกิดเหตุไฟไหม้ลุกลาม เรือประมงเวียดนามของกลาง 4 ลำเสียหาย ซึ่งเป็นเรือประมงผิดกฎหมาย ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
เมื่อช่วงเวลา 11.30 น.วันที่ 8 กันยายน 2562 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือของกลาง สัญชาติเวียดนาม ที่จอดไว้เยื้อง ด้านหน้ากองกำกับตำรวจน้ำนราธิวาส ฝังแม่น้ำบางนรา บริเวณบ้านปูลากาปะ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ทำให้เรือที่ถูกไฟไหม้ จากต้นเพลิงเรือจอดด้านใน ไฟลุกลามไปเรือด้านนอกที่จอดเทียบทั้งหมด 8 ลำ อย่างรวดเร็วเนื่องจากมีลมกระโชกตลอดเวลา หนุนเสริมเป็นระยะๆ ทำให้ไฟลุกโชนอย่างรวดเร็ว
ด้าน พ.ต.ท.นัฐพงศ์ ตาแก้ว สารวัตรตำรวจน้ำนราธิวาส รับทราบเหตุการณ์ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ นำเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมดับไฟ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวนำรถดับเพลิง มาร่วมดับไฟและสกัดไฟที่กำลังลุกลาม ไปยังเรือของกลางลำอื่นที่จอเทียบอยู่เคียงข้าง โดยได้ระดมกันฉีดน้ำกว่า 4 ชม. แต่ไม่สามารถที่จะดับไฟไหม้เรือ ที่สร้างด้วยไม้ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ให้ดับมอบสนิทได้ทั้งหมด แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงในวงจำกัดได้แล้ว 
พ.ต.ท.นัฐพงศ์ ตาแก้ว สารวัตรตำรวจน้ำนราธิวาส กล่าวว่า เรือประมงเวียนนามทั้งหมด เรือทั้ง 8 ลำสัญชาติเวียดนาม เสียหายที่ถูกไฟไหม้ครั้งนี้รวมทั้งหมด 4 ลำเสียหายหนัก 1 ลำ จากที่จอดเทียบทั้งหมด 8 ลำ เรือทั้งหมด เป็นของกลาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำได้จับกุม เรือสัญชาติ เวียดนาม ที่ทำผิดกฎหมาย ทำการประมงในราชอาณาจักรไทย คดีตั้งแต่ปีก่อนปี 2558 และส่งดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม และศาลมีคำพิพากษา เรือที่ทำผิดกฎหมายแล้ว ถือเป็นคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำเรือ มาตั้งผูกไว้กับเสาหลัก และเรียงผูกเรียงจากชิดฝัง ออกสู่แม่น้ำตามลำดับทั้งหมด ที่บริเวณบ้านปูลากาปัส ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง นราธิวาส ดังกล่าว อายุเรือหลายปีพุพังตามสภาพ และสถานที่ดังกล่าว มักมีวัยรุ่นบางกลุ่ม มักจะใช้ลักลอบใช้เป็นสถานที่เสพยาเสพติด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องส่งกำลังตรวจสอบบ่อยครั้ง และสันนิษฐานสาเหตุเบื้องต้น เรือที่เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากกลุ่มวัยรุ่น ลักลอบเข้าไปเสพยาเสพติดและใช้ไฟ หรือเชื้อเพลิงในการจุด จนเป็นเหตุให้ เรือเกิดไฟไฟไหม้ลามดังกล่าว ส่วนสาเหตุสาเหตุหลักยังไม่สามารถระบุได้ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวบหลักฐานหลักฐานให้แน่ชัดอีกครั้ง หากมีเป็นการวางเพลิง ก็ต้องดำเนินการ เพื่อจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุต่อไป
