8 กรกฎาคม 67 ที่ ถนนสายของกินเมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ ในเขตเทศบาลตำบลศรีพนมมาศ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ บ้านไม้ ยกพื้นสูงจากพื้นประมาณ 2.5 เมตร อายุไม่ต่ำกว่า 120 ปี ถูกปรับให้เป็นแหล่งค้าขายสร้างรายได้ ให้ลูกหลาน จนปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว น.ส.รัตนา มีเทียม อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านไม้เก่าโบราณเลขที่ 585 ต.ศรีพนมมาศ และเจ้าของ “เฮือนหม่อนแก้วข้าวพันผักลับแล” เร่งทำเมนูที่ลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งจองตามคิว “ข้าวพันผัก” เป็นอาหารพื้นบ้านของชาวลับแล ที่สืบทอด รุ่นสู่รุ่น สร้างงานสร้างรายได้ ในปัจจุบันขึ้นอยู่กับมา แต่ละร้านจะประยุกต์เมนูให้เกิดความหลากหลาย สร้าง จุดขายให้กับร้านของตัวเองอย่างไร
เจ้าของร้านเฮือนหม่อนแก้ว กล่าวว่า ข้าวพันผัก อาหารพื้นบ้านของลาวลับแลแต่โบราณ โดยวัตถุดิบสำคัญ คือ แป้งข้าวจ้าวผสมน้ำตามสัดส่วน จากนั้นตักละเลงหรือไล้บนผ้า ที่ขึงไว้ปากหม้อดิน เจาะรูที่มุมใดมุมหนึ่ง เพื่อให้ไอน้ำลอยขึ้นมาได้ โดนหม้อดินตั้งในน้ำเดือดกระทะขนาดใหญ่ (เหมือนกับการทำข้าวเกรียบปากหม้อ) ใช้ไอน้ำในการทำให้สุก นำผัก ถั่วงอก แครอท วุ้นเส้นใส่เข้าไปด้วย ปิดฝาไว้จนแป้งและผักสุก ก่อนจะห่อ จัดลงจาน โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ผักชีฝรั่งหั่นฝอย สูตรโบราณโดยแท้ ทานกับน้ำจิ้มสูตรของทางร้าน
“ปัจจุบันมีการปรับให้ ข้าวพันผัก น่ากิน มีเมนูหลากหลาย ซึ่งที่ ร้านเฮือนม่อนแก้วข้าวพันผักลับแล มีมากกว่า 20 เมนู ไม่รวมส้มตำ เช่น ข้าวพันผักใส่ไข่, ข้าวพันผักหมี่เหลือง,ข้าวพันผักมาม่า,ข้าวพันทรงเครื่อง,ข้าวพันไข่ม้วนเห็ดเข้มทอง,ข้าวพันไข่ม้วนหมี่เหลือง,ข้าวไข่ม้วนปูอัด เป็นต้น ทั้งนี้เมนูจะเน้นให้ถูกใจลูกค้าทุกเพศทุกวัย เด็กเล็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุทานได้ และราคาไม่แพง 20-30 บาท” ส่วนเมนูส้มตำเป็นที่นิยม ลูกค้าต้องสั่ง คือ “ตำไทยเกี้ยวกรอบ” นำเกี้ยวมาหั่นเป็นเส้น ทอดให้กรอบ ใช้แทนเส้นมะละกอ ขณะที่ทานจะนัวร์และกรอบ มีเพียง 1 เดียวที่ร้าน เพียงจานละ 40 บาท ทานคู่กับ ข้าวพันผัก พร้อมน้ำจิ้ม 3 รส คือ น้ำจิ้มพริกป่น, น้ำจิ้มสุกี้สูตรโบราณเต้าหู้ยี้,น้ำจิ้มสุกี้ปกติทั่วไป
“ข้าวพันผัก” ทางร้านถือเป็น “มรดกสร้างงาน” หม่อนแก้วเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว โดยปรับใต้ถุนบ้านไม้เก่าอายุไม่ต่ำกว่า 120 ปี เปิดเป็นร้าน เฮือนม่อนแก้วข้าวพันผักลับแล อาจมีประยุกต์เมนูให้หลากหลายขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า เปิดตั้งแต่ 09.00-18.00 น.ทุกวัน หากมีโอกาสมีเที่ยวเมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ แวะมาชิม “ข้าวพันผัก ตำไทยเกี้ยวกรอบ” หรือสอบถามเส้นทาง 087-816-7668
นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน
