ปปส.ภาค 5 ร่วมกับ ปปส.ภาค 6 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผนึกกำลังขยายผลตรวจค้น จับกุม ยึดทรัพย์สิน เพื่อทำลายเครือข่ายการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ
ภายใต้นโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในการลดปัญหายาเสพติดให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ทุกหน่วยงานผนึกกำลังเพื่อลดความเดือนร้อนของประชาชน โดยยึดหลัก “ผู้เสพเป็นผู้ป่วย ส่วนผู้ค้าจะต้องถูกลงโทษและยึดทรัพย์สิน” โดยการยกระดับการปราบปราม ทำลายโครงสร้างเครือข่ายกลุ่มการค้ายาเสพติดระดับต่าง ๆ อย่างจริงจังนั้น
สืบเนื่องจากตำรวจภูธรภาค 5 และสถานีตำรวจภูธรแม่พริก จังหวัดลำปาง ได้จับกุมยาเสพติดคดีสำคัญจำนวน 2 คดี เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๖ จับกุมผู้ต้องหา ๔ ราย พร้อมของกลางยาบ้า ๕๐๐,๐๐๐ เม็ด และเมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๖ จับกุมผู้ต้องหา ๒ ราย พร้อมของกลางยาบ้า ๑,๓๐๐,๐๐๐ เม็ด ต่อมา พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. จึงได้สั่งการให้ สำนักงาน ปปส. ภาค ๕ ผนึกกำลังกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่บูรณการการทำร่วมกัน เพื่อสืบสวนขยายผลไปยังนายทุนผู้สั่งการที่อยู่เบื้องหลัง โดยทั้ง 2 คดี มีกลุ่มผู้สั่งการในเครือข่ายเดียวกัน และเคยลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือมาแล้วประมาณ ๑๑ ครั้ง จนกระทั่งสามารถพิสูจน์ทราบผู้สั่งการและผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดครั้งนี้ และได้รวบรวมพยานหลักฐาน จึงได้ประสานศาลจังหวัดลำปางพิจารณาอนุมัติให้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง ๓ ราย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก โดยผู้ต้องหารายแรก ผันตัวเองจากนักค้ารายย่อยในพื้นที่ จ.ตาก เป็นผู้จัดหานำเข้ายาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ และให้น้องชายทำหน้าที่ประสานงานหาทีมขน โดยว่าจ้างคนในหมู่บ้านเดียวกัน รวมถึงคนในพื้นที่ข้างเคียง อ.เมืองตาก จ.ตาก ที่รู้จักกัน ให้ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ ภาคกลางและภาคใต้ รวมถึงให้ภรรยาทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวกับการลำเลียงยาเสพติด
ในวันนี้ (๘ พฤษภาคม ๒๕๖7) สำนักงาน ปปส. ภาค ๕ สำนักงาน ปปส. ภาค ๖ ตำรวจภูธรภาค ๕
กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรภาค ๖ ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ตำรวจภูธรจังหวัดตาก และสถานีตำรวจภูธรแม่พริก จ.ลำปาง สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย ปิดล้อมตรวจค้น จับกุม ยึดทรัพย์
จำนวน 2 เป้าหมาย ในพื้นที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก สามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้กว่า 24 รายการ ดังนี้
1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 600,000 บาท
2. รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน มูลค่าประมาณ 60,000 บาท
3. เอกสารการซื้อขายที่ดินของผู้ต้องหา จำนวน 3 แปลง เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท
4. บัญชีธนาคารของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 18 เล่ม มียอดเงินหมุนเวียนมากกว่า 30 ล้านบาท
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดอายัดประมาณ 36 ล้านบาท
ทั้งนี้จากการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นและการข่าว พบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะดำเนินการเฝ้าติดตามเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่าตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ทุกหน่วยงานผนึกกำลังและยึดเป้าหมายสูงสุดร่วมกัน นั่นคือการลดความเดือดร้อนของประชาชน และบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ค้ายาเสพติดจะต้องได้รับการลงโทษและถูกยึดทรัพย์สินอย่างจริงจัง เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร นำไปสู่การลดปัญหาการค้า และการแพร่ระบาดยาเสพติดในภาพรวมของประเทศไทยลงได้.